Page 42 - การไถกลบพืชปุ๋ยสดและตอซังข้าวร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตในพื้นที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ตำบลโนนกลาง อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี
P. 42
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
33
เกินไปจะสบกับปัญหาเรื่องเปลือกกล้วยที่แตก ท าให้ผลผลิตเสียหายในปีที่ 2 และ 3 จะเรียกกล้วยที่มีอายุ
เหล่านี้ว่ากล้วยตอ เมื่อถึงเวลาที่ตัดเครือกล้วยออกแล้ว เกษตรกรจะตัดต้นแม่ออก เพื่อลดความหนาแน่นและ
การแข่งขันในการหาอาหาร แต่การตัดต้นกล้วยนั้นควรจะตัดให้เหลือตอสูงประมาณ 1.5-2 เมตร เพื่อให้หน่อที่
แตกใหม่มีอาหารที่สมบูรณ์และน้ าที่ถูกกักเก็บไว้ในตอกล้วยจะช่วยเลี้ยงหน่อที่เหลือให้เจริญต่อไปได้การเลี้ยง
ตอนั้นจะเลี้ยงไว้จนตอแห้งแล้วจึงตัดออก
การตัดหน่อกล้วยไว้ส าหรับปีต่อไป หน่อกล้วยที่สมควรจะคัดไว้เป็นหน่อที่ให้ผลผลิตในปีต่อไป ควร
จะคัดหน่อกล้วยที่มีลักษณะดังนี้
1. ควรเป็นหน่อใต้ดิน ล าต้นแวบ อยู่ห่างจากโคนต้นแม่ประมาณ 10 นิ้ว ควรเหลือไว้ประมาณ 25
หน่อที่อยู่ตรงกันข้าม
2. ถ้าใช้ระยะปลูก 3x3 เมตร ควรคัดหน่อกล้วยอีกครั้งหนึ่งจาก 2 หน่อ ให้เหลือเพียงหน่อเดียวหรือ
เหลือไว้ไม่เกิน 2 หน่อ ซึ่งจะท าให้แปลงกล้วยทึบล าต้นจะสูงชะลูดและหักล้มได้ง่าย
ปัญหาและอุปสรรคในการเพาะปลูกกล้วยหอมทอง
1. กล้วยหอมทองมีล าต้นสูงเครือใหญ่จึงมีปัญหาในการหักล้มก่อนกล้วยจะแก่ได้ง่าย
2. ต้องสิ้นเปลืองค่าไม้ค้ า
3. ถ้าปลูกมากเกินไปในท้องถิ่นหนึ่งกล้วยจะล้นตลาด
ผักกาดหอม, ผักสลัด
ชื่อวิทยาศาสตร์ Lactuca sativa
พันธุ์ผักสลัดที่ใช้ปลูกมี 6 สายพันธุ์ ได้แก่ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดลีฟ บัตเตอร์เฮด คอส และสลัดแก้ว ซึ่ง
ทั้ง 6 สายพันธุ์นี้มีการปรับตัวในพื้นที่ดีมาก และพันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีที่สุดคือ สลัดแก้ว พันธุ์ที่เลือกนี้ตรงกับตาม
ความต้องการของตลาด พันธุ์ที่ตลาดต้องการมากที่สุด ได้แก่ พันธุ์สลัดแก้ว และ คอส โดยจะท าการสั่งเมล็ด
พันธุ์ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสม มาจากอเมริกา กิโลกรัมละ 40,000 บาท มีประมาณ 300,000 เมล็ด ในการสั่งแต่ละ
ครั้งเกษตรกรจะรวมกลุ่มกัน และสั่งโดยตรงจากบริษัทเมล็ดพันธุ์
การเตรียมดิน และ แปลงปลูก
- ตรวจสภาพของดินวัดความเป็นกรด - ด่างของดิน ซึ่งระดับที่เหมาะสมคือ 6 - 6.5
- ไถดะปรับพื้นที่ให้เรียบและโปร่ง จากนั้นให้ไถซ้ าอีก 2-3 ครั้ง เพื่อให้ดินละเอียดขึ้น
- ตากดินไว้ 7 วัน เพื่อก าจัดโรคพืชและแมลง
- ขุด ถอน และก าจัดพืชที่ไม่ต้องการออก
- หว่านปูนขาวเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดของดิน 100 – 200 กิโลกรัมต่อไร่
- ยกแปลงขนาด 1.20 x 40 เมตร ยกร่องสูง 50 เซนติเมตร
- หว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1-2 ตันต่อไร่ เพื่อเพื่อความร่วนซุยและไถพรวนอีกครั้งหนึ่ง
- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมาะสมกับการปลูกผักอัตรา 50
กิโลกรัมต่อไร่