Page 45 - การใช้เทคโนโลยีการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) ตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
P. 45

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       34







                       ติดต่อกันหลายปีท าให้เนื้อดินเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยวิธี การปรับสภาพความเป็นกรดด่างของดิน
                       กระท าได้โดยใส่ปูนขาว ปูนมาร์ล หรือแร่โดโลไมท์ อัตรา 200-300 กิโลกรัมต่อไร่
                                     หลังจากหว่านหรือใส่ปูนแล้วจะต้องรดน้ าตามด้วย ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน
                       หรือพีเอช จะบอกค่าตัวเลขตั้งแต่ 0-14 หากดินมีค่าน้อยกว่า 7 ดินนั้นจะเป็นดินกรด ยิ่งน้อยกว่า 7

                       มาก ก็จะเป็นกรดมาก ถ้าดินมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างเท่ากับ 7 แสดงว่าเป็นกลาง ความเป็นกรด
                       เป็นด่างของดินจะเป็นตัวควบคุมการละลายหรือการตรึงธาตุอาหารในดินออกมาอยู่ในรูปสารละลาย
                       ในดินเพื่อให้พืชน าไปใช้ประโยชน์ได้ ช่วงค่าความเป็นกรดเป็นด่าง 6.2-6.8 เป็นช่วงที่ธาตุอาหาร
                       ทั้งหมดที่จ าเป็นแก่พืชจะถูกน าไปใช้ได้มากที่สุด ค่าความเป็นกรดเป็นด่างสูงกว่า 6.8 อาจท าให้พืช

                       แสดงอาการขาดธาตุ ฟอสฟอรัสและธาตุเสริม เช่น เหล็ก แมงกานีส สังกะสี ทองแดง และโบรอน
                       หากค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ ากว่า 5.3 อาจท าให้พืชแสดงอาการขาดธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม
                       ก ามะถัน และโมลิบดินัม ได้ หรือพืชจะแสดงอาการเป็นพิษจากแมงกานีส มากเกินไปแต่พืชบางชนิด
                       อาจเจริญได้ดีที่เป็นกรดหรือเป็นด่าง มากกว่านี้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างสามารถวัดได้โดยใช้เครื่องมือ

                       วัดพีเอช
                                   2) วิธีใช้โดโลไมท์ในพื้นที่เกษตรกรรม
                                      (1) การแก้ไขดินกรดก่อนการปลูกพืช พื้นที่ดินปลูกผักส่วนใหญ่จะเป็นดินกรด

                       ดังนั้นในการปลูกพืชส่วนใหญ่จ าเป็นต้องปรับค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้สูงขึ้น ควรใช้หินปูน
                       บด หรือปูนโดโลไมท์ ในการปรับค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ปริมาณหินปูนที่ใช้ขึ้นอยู่กับสภาพ
                       ของดินว่าดินมีบัฟเฟอร์มากน้อยแค่ไหน เกษตรกรจึงควรส่งดินเพื่อตรวจสอบค่าความเป็นกรดเป็น
                       ด่างของดิน และขอค าแนะน าปริมาณหินปูนส าหรับดินชุดที่ส่งไปตรวจนั้นโดยทั่วไปหากผสมหินปูน
                       1.75 กิโลกรัม ในดิน 1 ลูกบาศก์เมตร จะท าให้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างเพิ่มขึ้นประมาณ 0.3-0.5

                       หน่วย หากไม่สามารถส่งดินเพื่อตรวจสอบได้ อาจทดลองผสมหินปูนในอัตราที่ คาดว่าจะใช้จริงกับดิน
                       จ านวนน้อยก่อนโดยท าให้ดินชื้นเหมือนก่อนปลูกพืช แล้วใส่ถุงพลาสติกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้น
                       จึงควรตรวจสอบค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ควรใช้ปูนชนิดละเอียด เพื่อการทดสอบนี้ เพราะหินปูน

                       หยาบจะใช้เวลานานถึง 6 เดือน จึงจะท าปฏิกิริยาและลดค่าความเป็นกรดเป็นด่างได้ ในการใส่ปูนใน
                       แปลงจึงส าคัญมาก ที่จะผสมให้เข้ากับดินเพื่อที่จะช่วยให้สลายตัวเร็วขึ้น หินปูนโดโลไมท์นอกจากจะ
                       ปรับสภาพดินแล้วยังให้ธาตุอาหารรอง คือ แคลเซียม ส่วนโดโลไมท์ยังให้แมกนีเซียมอีกด้วย ดังนั้นใน
                       การปรับสภาพดินกรดโดยทั่วไป จึงแนะน าให้ใช้ปูนโดโลไมท์

                                     (2) การแก้ไขดินกรดหลังปลูกพืชแล้ว การใส่หินปูน หรือปูนโดโลไมท์จะให้ผลช้า
                       ดังนั้น จึงไม่เหมาะสมกับการแก้ไขดินกรดเมื่อปลูกพืช แล้วซึ่งอาจปฏิบัติได้ ดังนี้
                                         หากดินมีสภาพเป็นกรดเล็กน้อย อาจใช้ปุ๋ยเดี่ยว เช่น แคลเซียมไนเตรท และ
                       โปแทสเซียมไนเตรท โดยอาจใช้แคลเซียมไนเตรทอัตรา 2.4 กรัมต่อน้ า 1 ลิตร อัตรา 1.2 กรัมต่อน้ า

                       1 ลิตร รดทุกสัปดาห์ วิธีนี้จะได้ผลหากเกษตรกรหมั่นตรวจสอบระดับค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
                                         หากดินมีสภาพเป็นกรดรุนแรง อาจจ าเป็นต้องใช้ปูนขาว (แคลเซียมไฮดรอก
                       ไซด์) ปูนขาวอาจท าอันตรายต่อเนื้อเยื่อพืชได้ และในปริมาณมากจะท าให้รากเสียหาย การใช้ปูนขาว
                       อาจใช้ในอัตรา 75 กรัมต่อ 1ลูกบาศก์เมตร โรยลงบนดิน และให้น้ าทันทีเพื่อล้างส่วนที่ดินกับพืช

                       ออกไปและเพื่อให้ปูนขาวเริ่มละลายน้ าลงสู่ดิน หรืออาจให้ในรูปสารละลายน้ าได้ดี แต่จะมีผลใน
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50