Page 96 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 96
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
85
สกุลที่พบมาก ได้แก่ Micromonospora sp., Streptomyces sp. Thermoactinomycetes sp., Actinomyces
sp. และ Thermomonospora sp หากเปิดกองวัสดุที่หมักออกดูจะพบแอคติโนไมซีตมีลักษณะเป็นขุยสีขาว
คล้ายกับผงแป้งในกองปุ๋ย ซึ่งเป็นลักษณะการเจริญแบบเส้นใยและสร้างสปอร์ของจุลินทรีย์ชนิดนี้ หรือหาก
เป็นการกองปุ๋ยในหลุมหมักที่มีฝาปิดและผิวหน้ากองมีความชื้นมากพอ อาจพบแอคติโนไมซีสต์เจริญเติบโต
เป็นขุยที่ผิวหน้ากองปุ๋ยจนขาวโพลนก็ได้ เชื้อแอคติโนมัยซิสต์สามารถเจริญได้ดีในช่วงอุณหภูมิสูงถึง 65
องศาเซลเซียส และการเจริญจะลดลงหรือหยุดชะงักเมื่ออุณหภูมิสูงเกินกว่า 75 องศาเซลเซียส (ส่านัก
เทคโนโลยีชีวภาพทางดิน, 2551; ยงยุทธและคณะ, 2551)
3.เชื้อรา (Fungi) มีลักษณะเป็นเส้นใยต่อกันและมีสปอร์กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป เชื้อราเป็นกลุ่ม
จุลินทรีย์ที่ต้องการอากาศ (aerobe) เป็นกลุ่มที่มีการเจริญเติบโตรวดเร็วและเพิ่มปริมาณมากในช่วงแรกๆ
ของการหมักใกล้เคียงกับพวกแบคทีเรีย ซึ่งช่วงนั้นยังมีสารประกอบที่ย่อยสลายง่ายอยู่มากแต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ
เท่านั้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม เมื่ออุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักสูงกว่า50 องศา
เซลเซียสจนใกล้ 60 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตของเชื้อรามักจะลดลงและที่อุณหภูมิประมาณ 60– 65
องศาเซลเซียสเชื้อราจะถูกท่าลาย แต่เมื่ออยู่ในสภาพที่แห้งพบว่าอุณหภูมิสูงขนาด 62 – 63 องศาเซลเซียส
ยังสามารถตรวจพบเชื้อราได้ในกองปุ๋ยหมัก การตรวจพบเชื้อราแต่ชนิดและปริมาณของเชื้อจะแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับชนิดชองเศษวัสดุและสภาพแวดล้อม ได้แก่ ความชื้น และอุณหภูมิ ในการท่าปุ๋ยหมัก การที่
อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นและมีความชื้นสูงเป็นสภาพที่ไม่เหมาะสมกับเชื้อรา ดังนั้นจึงมักตรวจพบเชื้อราเจริญอยู่
บริเวณผิวนอกของปุ๋ยหมัก ซึ่งมีอุณหภูมิต่่าและมีความชื้นน้อยกว่าในกองปุ๋ยหมัก เชื้อราส่วนใหญ่มี
ความสามารถในการย่อยสลายสารประกอบโมเลกุลใหญ่ได้ดี เนื่องจากเชื้อราหลายชนิดผลิตเอนไซม์ออกมา
ภายนอกเซลล์ได้หลากหลายชนิด อย่างไรก็ตามปัจจัยต่างๆของสภาพแวดล้อม จะเป็นตัวควบคุมและ
คัดเลือกเชื้อราที่มีความสามารถในการด่ารงกิจกรรมในกองปุ๋ยหมัก เชื้อราที่พบทั่วไปในกองวัสดุจากเศษพืช
คือ เชื้อราย่อยเซลลูโลส ได้แก่ Aspergillus sp., Peniculium sp., Fusarium sp., Trichoderma sp. และ
Chaetomonium sp. ส่าหรับอินทรียสารที่มีในกองวัสดุนั้น น้่าตาลและกรดอินทรีย์ต่างๆ จะถูกย่อยสลาย
เร็วที่สุด เซลลูโลสสลายตัวค่อนข้างช้า ส่วนลิกนินสลายช้าที่สุดจึงถูกใช้เป็นล่าดับสุดท้ายของโซ่อาหาร
อย่างไรก็ตามเชื้อรา Basidiomycetes sp. เป็นเชื้อราที่มักพบว่ามีบทบาทส่าคัญในกาย่อยสลายลิกนิน และ
จากการศึกษาชนิดของเชื้อราในระยะต่างๆของการท่าปุ๋ยหมัก พบว่าในระยะแรกที่อุณหภูมิในกองปุ๋ยหมัก
เพิ่มสูงขึ้นมักจะตรวจพบเชื้อราพวก Geotrichumcandidum และ Aspergillusfumigatu sและเมื่อ
อุณหภูมิสูงถึงระดับ45 – 55 องศาเซลเซียส มักจะตรวจพบพวก Cladosporium sp., Aspergillus sp. และ
Mucor sp. เมื่ออุณหภูมิสูงกว่านี้อาจพบพวก Penicilliumduponti อย่างไรก็ตามชนิดของเชื้อราดังกล่าวนี้
จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและวัสดุที่ใช้ บางครั้งอาจจะเห็นกลุ่มของเส้นใยเชื้อราเป็นสี
ขาวหรือสีเทาเจริญอยู่ภายในกองปุ๋ยหมัก (ส่านักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน, 2551; ยงยุทธและคณะ, 2551)
5. การผลิตปุ๋ยหมักโดยใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.1
กระบวนการผลิตปุ๋ยหมัก พบว่า จุลินทรีย์เป็นปัจจัยที่ส่าคัญที่สุด เพราะกระบวนการย่อยสลายเศษ
วัสดุในกองปุ๋ยหมักเกิดจากกิจกรรมของเชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้น ถ้าต้องการผลิตปุ๋ยหมักให้ใช้เวลาน้อยที่สุด ต้อง

