Page 88 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 88
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
77
โดยน้่าหนักถ้าหากมีความชื้นต่่ากว่า 40 เปอร์เซ็นต์ การย่อยสลายจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่ามีแบคทีเรียที่
สามารถมีกิจกรรมได้เมื่อวัสดุมีความชื้นเพียง 12 – 15 เปอร์เซ็นต์ แต่การย่อยสลายอินทรียสารในสภาพ
ดังกล่าวจะช้ามาก ต้องใช้เวลาการหมักนานกว่าปกติและได้ปุ๋ยหมักที่คุณภาพไม่ดี แต่ถ้าความชื้นมากเกิน
กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะท่าให้กองปุ๋ยหมักแฉะเกินไปมีผลท่าให้ปริมาณอากาศมีไม่เพียงพอกับความต้องการ
ของจุลินทรีย์ ส่งผลกระทบกระบวนการย่อยสลายเศษวัสดุชะลอลง บางครั้งอาจท่าให้เกิดกรดอินทรีย์สะสม
เป็นปริมาณมาก เป็นเหตุให้ปุ๋ยหมักมีคุณภาพต่่าลง เพราะกรดอินทรีย์ที่ค้างอยู่อาจเป็นพิษต่อจุลินทรีย์หรือ
มีผลเสียต่อการเจริญเติบโตของรากพืชได้ นอกจากความชื้นมีผลโดยตรงต่อการเจริญและกิจกรรมของ
เชื้อจุลินทรีย์แล้ว ยังมีผลทางอ้อมต่อการระบายอากาศด้วย กล่าวคือถ้าความชื้นมีมากเกินไปการ
แพร่กระจายของออกซิเจนในกองปุ๋ยหมักจะเกิดได้ยาก จนท่าให้เกิดสภาพขาดออกซิเจนและมีผลต่ออัตรา
การย่อยสลายสารอินทรีย์ดังกล่าวแล้ว เป็นผลท่าให้เกิดการหมักแบบสภาพที่ไม่มีอากาศจะเกิดกลิ่นเหม็น
ภายในกองปุ๋ยหมัก ซึ่งเกิดจากสารอินทรีย์ระเหยจ่าพวก มีเทน ฟอสฟิน และไฮโดรเจนซัลไฟด์ โดยกลุ่ม
จุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศ และมีผลท่าให้เกิดการสูญเสียธาตุอาหารจากวัสดุเศษพืชในระหว่างการท่าปุ๋ย
หมักด้วย เช่น ไนโตรเจนจะเปลี่ยนรูปไปเป็นแอมโมเนีย
ความชื้นในกองเศษวัสดุมาจากสองแหล่ง คือ ความชื้นเดิมของวัสดุและความชื้นที่เกิดจาก
metabolism ของจุลินทรีย์ ส่าหรับความชื้นที่เกิดจากการย่อยสลายอินทรียสารของจุลินทรีย์นั้นประมาณ
0.55 – 0.65 กรัมต่อกรัมวัสดุ โดยปกติภายในกองปุ๋ยหมักจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นท่าให้มีการสูญเสียน้่าจากการ
ระเหยระหว่างการหมักอย่างต่อเนื่อง เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่ากระบวนการย่อยสลายอินทรียสารของ
จุลินทรีย์ 1 กรัมแบบใช้ออกซิเจน จะให้พลังงานความร้อนประมาณ 25 กิโลจูล ซึ่งเพียงพอส่าหรับการน้่า
ระเหย 10.2 กรัม หรือประมาณ 10 เท่าของน้่าที่ได้จากจากกิจกรรมการสลายตัวของเศษวัสดุโดยจุลินทรีย์
ดังนั้นจึงจ่าเป็นต้องควบคุมให้กองปุ๋ยหมักมีความชื้นระยะแรกและระยะต่อมาประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ แล้ว
ปล่อยให้ลดลงที่ละน้อยจนปุ๋ยหมักที่มีความชื้น 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตควรให้มี
ความชื้นไม่เกิน 35 เปอร์เซ็นต์ (ส่านักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน, 2551; ยงยุทธและคณะ, 2551)
3.4 การระบายอากาศ
การระบายอากาศในกองปุ๋ยหมักเป็นสิ่งจ่าเป็นอีกประการหนึ่ง เนื่องจากการย่อยสลายเศษวัสดุ
โดยจุลินทรีย์ชนิดใช้ออกซิเจนจะมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วกว่าจุลินทรีย์ชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจนหลายเท่า ดังนั้นถ้าไม่
มีการระบายอากาศในกองปุ๋ยจะท่าให้เกิดสภาพขาดออกซิเจน ซึ่งมีผลต่ออัตราการย่อยสลายสารอินทรีย์เป็น
ผลท่าให้เกิดการหมักแบบสภาพที่ไม่มีอากาศ จะเกิดกลิ่นเหม็นภายในกองปุ๋ยหมัก ซึ่งเกิดจากสารอินทรีย์
ระเหยจ่าพวกมีเทนและไฮโดรเจนซัลไฟด์โดยกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศ มีผลท่าให้เกิดการสูญเสียธาตุ
อาหารจากวัสดุเศษพืชในระหว่างการท่าปุ๋ยหมักด้วย เช่น ไนโตรเจนจะเปลี่ยนรูปไปเป็นแอมโมเนีย เป็นต้น
จากที่กล่าวข้างต้นจึงจ่าเป็นต้องมีการระบายอากาศในกองปุ๋ยเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้เพียงพอต่อการ
เจริญและย่อยสลายเศษซากพืชของจุลินทรีย์ (Macgregor, 1981)
การระบายอากาศหรือการเพิ่มออกซิเจนให้แก่กองปุ๋ยอาจจะท่าได้โดยการกลับกองปุ๋ย ซึ่ง
นอกจากจะมีผลดีในการระบายอากาศแล้วยังช่วยคลุกเคล้าเศษวัสดุต่างๆ ให้เข้ากันอย่างสม่่าเสมอ การกลับ
กองปุ๋ยหมักในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะท่าให้กิจกรรมของจุลินทรีย์ด่าเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นวิธีการที่ไม่ต้อง