Page 142 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 142
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
131
6.1 ชนิดและองค์ประกอบของวัสดุหมัก วัสดุจากเศษปลาจะย่อยยากกว่าวัสดุผักและผลไม้
เนื่องจากปลามีองค์ประกอบของโปรตีนและส่วนของกระดูกปลา ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายนานขึ้น
ในขณะที่วัสดุหมักที่เป็นเศษพืชจะใช้ระยะเวลาในการหมักสั้นกว่า เนื่องจากองค์ประกอบของวัสดุหมักจาก
ผักและผลไม้มีปริมาณเซลลูโลสต่่า แต่วัสดุจากปลาจะมีแร่ธาตุที่อยู่ในรูปเป็นประโยชน์มากกว่า นอกจากนี้
ในวัสดุผักหรือผลไม้จะมีองค์ประกอบของน้่าตาลอยู่มากกว่าวัสดุประเภทเนื้อสัตว์ สารประกอบของน้่าตาลที่
อยู่ในวัสดุผักและผลไม้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการหมักได้ดี ยีสต์จะใช้น้่าตาลที่มีอยู่ในองค์ประกอบ
ของวัสดุหมักแล้วแปรสภาพให้เป็นของเหลวเป็นการถนอมผลิตภัณฑ์ไว้ โดยผ่านกระบวนการหมัก
6.2 ความอวบน้ําของวัสดุหมัก วัสดุที่มีความชื้นสูงหรืออวบน้่า จะท่าให้กระบวนการหมักด่าเนิน
การย่อยสลายได้ดี เช่น วัสดุเหลือใช้ จากผักกาดขาว ฟักเขียวและมะเขือเทศ เมื่อน่าไปผ่านกระบวนการ
หมักในสภาพที่เป็นของเหลวแล้วในช่วง 1 – 3 วันแรกของการหมัก จะมีของเหลวออกมาจากวัสดุผักได้ง่าย
โดยผ่านกระบวนการทางชีวเคมี หรือถ้าเป็นวัสดุเหลือใช้จากผลไม้ เช่น แตงโม มะละกอ มะม่วง สับปะรด
ส้ม ล่าไย ลิ้นจี่และผลไม้อีกหลายชนิด วัสดุเหลือใช้ดังกล่าวนี้มีความชื้นสูงประมาณ 70 – 90 เปอร์เซ็นต์ จะ
ท่าให้สารละลายจากพืชปลดปล่อยออกได้รวดเร็ว ในกรณีของวัสดุเหลือใช้ที่ได้มาจากสัตว์ เช่น ปลาหรือหอย
นั้น สารละลายที่จะถูกสกัดออกมาจะใช้ระยะเวลานานกว่าพืชผักและผลไม้ เนื่องจากสัตว์มีองค์ประกอบ
ของโมเลกุลที่ซับซ้อนมากกว่าในเซลล์พืช และนอกจากนี้ความชื้นจะต่่ากว่าเซลล์พืช
6.3 แหล่งอาหารคาร์บอนของจุลินทรีย์ ในกระบวนการหมักน้่าตาลเป็นแหล่งอาหารคาร์บอนที่
ส่าคัญของจุลินทรีย์ในการด่าเนินกิจกรรม เช่น กากน้่าตาล น้่าตาลทรายแดง น้่าตาลทรายขาว น้่าอ้อยสด
และน้่าตาลสด ดังนั้น ในการหมักนอกจากจะเกิดกิจกรรมการย่อยสลายจุลินทรีย์แล้ว ความเข้มข้นของ
น้่าตาลยังมีผลต่อการเกิดกระบวนการ plasmolysis เพราะท่าให้เซลล์พืชหรือสัตว์แตกออกและได้สารละลาย
ถูกสกัดออกมาเพิ่มขึ้น เนื่องจากวัสดุผลไม้มีองค์ประกอบของน้่าตาลในปริมาณที่มากกว่าวัสดุหมักชนิดอื่น
ดังนั้นในการหมักวัสดุจากสัตว์ควรใช้ผลไม้ร่วมด้วย เพราะจะท่าให้การด่าเนินกิจกรรมของจุลินทรีย์ดีขึ้น
6.4 การระบายอากาศ โดยทั่วไปแล้วกระบวนการหมักวัสดุลักษณะสดนี้จะเกิดขึ้นในสภาพที่ไม่มี
ออกซิเจนมากกว่ามีออกซิเจนและได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO ) ในระหว่างการหมัก ดังนั้นจะต้องให้มี
2
การระบาย CO ออกไป จึงไม่ควรปิดฝาให้สนิท และควรมีการกวนวัสดุหมักทุก 7 วัน
2
6.5 ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง มีความเกี่ยวข้องในกระบวนการหมัก เนื่องจากกิจกรรมของ
จุลินทรีย์ โดยกลุ่มจุลินทรีย์พวก acetic หรือ lactic bacteria จะปลดปล่อยกรดอินทรีย์พวก acetic หรือ
lactic acid ในกระบวนการหมัก ท่าให้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างเริ่มแรกมีค่าประมาณ 5 และสิ้นสุด
ขบวนการจะมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างระหว่าง 3 – 4
6.6 อุณหภูมิ จุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการหมักดังกล่าวนี้ เป็นจุลินทรีย์ที่เจริญได้ดีใน
อุณหภูมิปกติหรือระหว่าง 30 – 35 องศาเซลเซียส และไม่ต้องการแสง
6.7 ความชื้น ในกระบวนการหมักจะต้องมีความชื้นสูง โดยมีการเติมน้่าให้ท่วมวัสดุหมัก ซึ่งเป็น
สภาพที่มีความเหมาะสมในกระบวนการหมักโดยกิจกรรมของจุลินทรีย์ เพื่อท่าให้สารละลายในวัสดุหมัก
ออกมาจากเซลล์