Page 147 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 147
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
136
เจริญเติบโตของรากและล่าต้นพืชได้ดี แต่อย่างไรก็ตามการใส่น้่าหมักจะมีผลตอบสนองของพืชเด่นชัด ต้อง
มีการจัดการดินให้เหมาะสมทั้งในด้านกายภาพและเคมีของดินก่อน กล่าวคือ การปรับปรุงบ่ารุงดินด้วยปุ๋ย
อินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยพืชสด เพื่อให้ดินมีโครงสร้างที่ดี มีการถ่ายเทอากาศ และธาตุอาหาร
ที่เพียงพอแก่การเจริญเติบโตของพืช ดังรายงานกรมพัฒนาที่ดิน (2544) ว่า การไม่ใส่ปุ๋ยหมักและน้่าหมัก
การไม่ใส่น้่าหมักและการใส่น้่าหมักชนิดต่างๆ (เจือจางน้่าหมัก 1 ส่วนต่อน้่า 500 ส่วน) ร่วมกับการใช้ปุ๋ยหมัก
อัตรา 4 ตันต่อไร่ ในดินชุดจันทึก โดยน่าน้่าหมักชนิดต่างๆ รดลงดินในช่วงเริ่มต้นการทดลอง หลังจากนั้น
ปลูกข้าวโพดหวานและฉีดพ่นน้่าหมักทุก 7 วัน หลังจากปลูกข้าวโพดหวาน 10 วัน พบว่า การไม่ใส่ปุ๋ยหมัก
และน้่าหมักต้นข้าวโพดหวานมีการเจริญเติบโตน้อยสุด คือ มีความกว้างใบและความสูง 1.15 และ 3.07
เซนติเมตร ตามล่าดับ ส่วนการใส่ปุ๋ยหมักต้นข้าวโพดหวานมีความกว้างใบและความสูง 1.23 และ 3.82
เซนติเมตร ตามล่าดับ ส่าหรับการใส่น้่าหมักจากปลา, ผัก และผลไม้ร่วมกับปุ๋ยหมัก มีผลท่าให้ต้นข้าวโพด
หวานมีความกว้างใบและความสูงเพิ่มขึ้นและมากกว่าการใส่ปุ๋ยหมักอย่างเดียว โดยเพิ่มขึ้นระหว่าง 1.45 –
1.47 และ 5.20–6.02เซนติเมตร ตามล่าดับ ดังตารางที่ 7.12
ตารางที่ 7.12 ผลของน้ําหมักต่อการเจริญเติบโตข้าวโพดหวานอายุ 10 วัน ในชุดดินจันทึก
ตํารับการทดลอง ความกว้างของใบ (ซม.) ความสูง(ซม.)
1. ไม่ใส่ปุ๋ยหมักและน้่าหมัก 1.15 3.07
2. ใส่ปุ๋ยหมัก 1.23 3.82
3. ใส่ปุ๋ยหมัก + น้่าหมักจากปลา 1.45 5.20
4.ใส่ปุ๋ยหมัก + น้่าหมักจากผัก 1.45 5.28
5. ใส่ปุ๋ยหมัก + น้่าหมักจากผลไม้ 1.47 6.02
ที่มา: ดัดแปลงมาจากกรมพัฒนาที่ดิน (2544)
2) ด้านการส่งเสริมการงอกของเมล็ดพืช
เนื่องจากในน้่าหมักมีส่วนประกอบของฮอร์โมนออกซินและจิบเบอเรลลิน ซึ่งมีผลต่อการยืดตัวของ
เซลล์รากที่งอกออกมาจากส่วนของเมล็ด ดังรายงานกรมพัฒนาที่ดิน (2544) ว่า การไม่ใส่ปุ๋ยหมักและน้่า
หมัก การใส่ปุ๋ยหมัก และการใส่ปุ๋ยหมักร่วมกับน้่าหมักชนิดต่างๆ (เจือจางน้่าหมัก 1ส่วนต่อน้่า 500 ส่วน)
โดยใช้ปุ๋ยหมักอัตรา 4 ตันต่อไร่ ในดินชุดจันทึก ต่อการงอกของเมล็ดข้าวโพดหวานและกวางตุ้ง พบว่า การไม่
ใส่ปุ๋ยหมักและน้่าหมักอัตราการงอกของเมล็ดข้าวโพดหวานและกวางตุ้ง คือ 66.67 และ 76.7 เปอร์เซ็นต์
ตามล่าดับ ส่วนการใส่ปุ๋ยหมักอัตราการงอกของเมล็ดข้าวโพดหวานและกวางตุ้งมีค่ามากกว่า คือ 77.67 และ
86.7 เปอร์เซ็นต์ ตามล่าดับ ส่วนการใส่น้่าหมักชนิดต่างๆ ร่วมกับปุ๋ยหมักมีผลท่าให้อัตราการงอกของเมล็ด
ข้าวโพดหวานและกวางตุ้งมากกกว่าการใส่ปุ๋ยหมักอย่างเดียว โดยเพิ่มขึ้นระหว่าง 89.00 – 100.00 และ
90.60 – 93.30 เปอร์เซ็นต์ ตามล่าดับ ดังตารางที่ 7.13