Page 37 - ผลสำเร็จของการดำเนินงาน โครงการพัฒนาที่ดินชุมชนบนพื้นที่สูง บ้านมณีแก้ว หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
P. 37

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                        27







                       ดอกเป็นแบบราซีม  (Racemes)  ซึ่งอยู่ปลายกิ่งก้านสาขา ประกอบด้วยดอกย่อย 8-20  ดอก ดอกสี
                       เหลือง มีการผสมข้าม ฝักเป็นทรงกระบอกยาว 3-6  เซนติเมตร กว้าง 1-2  เซนติเมตร หนึ่งฝักมี
                       ประมาณ 6  เมล็ด เมื่อเขย่าฝักแก่จะมีเสียงดังเนื่องจากเมล็ดกระทบกัน เมล็ดมีรูปร่างคล้ายหัวใจสี
                       น้ าตาลหรือด า เมล็ดหนึ่งกิโลกรัมจะมีเมล็ดจ านวน 40,000-50,000 เมล็ด หรือหนึ่งลิตรจะมีประมาณ

                       34,481 เมล็ด
                                                   (1.1) ลักษณะทางพืชไร่ของปอเทือง ขณะนี้มีอยู่เพียงพันธุ์เดียวที่ใช้
                       ประโยชน์อยู่ในประเทศไทย สามารถขึ้นได้ดีในสภาพอากาศทั่วๆ ไป ทนแล้ง สภาพพื้นที่เป็นที่ดอน
                       การระบายน้ าดี ในกรณีที่ปลูกเพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดในรูปแบบของพืชหมุนเวียนสลับกับพืชหลัก จะ

                       ปลูกในช่วงต้นฤดูฝนก่อนปลูกพืชหลักประมาณ 2.0-2.5  เดือน ในระบบพืชแซมจะปลูกพืชหลัก
                       ประมาณ 1-2  สัปดาห์ ในระบบพืชเหลื่อมฤดูจะปลูกปอเทืองในระยะใกล้หรือรอการเก็บเกี่ยว แต่ใน
                       กรณีที่ปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์จ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องก าหนดช่วงปลูกให้เหมาะสม มิฉะนั้นจะได้
                       ผลผลิตน้อยหรือไม่ได้เลย โดยทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะปลูกเดือนสิงหาคม-กันยายน ใน

                       ภาคกลางควรปลูกปลายฤดูฝนช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม
                                                   (1.2) การปลูกเพื่อเป็นปุ๋ยพืชสด ควรท าการไถพรวนดินก่อนแล้วจึง
                       ปลูก การปลูกที่ใช้ปฏิบัติกันมี 3 วิธี ดังนี้

                                                       (1.2.1)  ปลูกแบบหว่าน เป็นวิธีที่สะดวก ประหยัดเวลาและ
                       แรงงาน โดยการน าเอาเมล็ดพันธุ์ที่เตรียมไว้หว่านลงไปในแปลงให้ทั่ว ในอัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่
                                                       (1.2.2) ปลูกแบบโรยเป็นแถว โดยใช้เมล็ดโรยลงในแถว ระยะ
                       ระหว่างแถว 75  เซนติเมตร เมื่อโรยเมล็ดลงในแถวแล้วกลบเมล็ดด้วยดินบางๆ ใช้อัตราเมล็ด 3-5
                       กิโลกรัมต่อไร่ การปลูกด้วยวิธีนี้ค่อนข้างช้าและสิ้นเปลืองแรงงานกว่าวิธีแรก แต่ได้ปอเทืองที่ขึ้นเป็น

                       แถวอย่างมีระเบียบ
                                                       (1.2.3)  ปลูกแบบหยอดเป็นหลุม วิธีนี้ล่าช้าและไม่สะดวก
                       ในทางปฏิบัติ อีกทั้งสิ้นเปลืองแรงงาน ไม่เป็นที่นิยม ใช้ในกรณีที่มีเมล็ดพันธุ์จ ากัดมาก ใช้ระยะปลูก

                       50x100 เซนติเมตร หยอดเมล็ด 2-3 เมล็ดต่อหลุม ใช้อัตราเมล็ด 1-3 กิโลกรัมต่อไร่
                                                   การปลูกเพื่อใช้เป็นปุ๋ยพืชสด นิยมปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดในสภาพพื้นที่
                       ดอน โดยปลูกในรูปแบบของพืชหมุนเวียน โดยหว่านหรือโรยเมล็ด ก่อนการปลูกพืชหลัก เช่น ข้าวโพด
                       มันส าปะหลัง อ้อย เป็นต้น อย่างน้อย 2.0-2.5  เดือน แล้วไถกลบปอเทืองที่อายุประมาณ 50-60  วัน

                       ในขณะที่ดินยังมีความชื้นแล้วทิ้งไว้ 7-10  วัน ก่อนปลูกพืชหลัก หรืออาจปลูกในรูปแบบของพืชแซม
                       โดยปลูกระหว่างแถวพืชหลัก ปลูกหลังจากพืชหลักประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือในรูปแบบการปลูกพืช
                       เหลื่อมฤดู โดยปลูกปอเทืองเป็นพืชที่สอง ระหว่างแถวของพืชหลักในระหว่างที่พืชหลักยังไม่ได้เก็บ
                       เกี่ยว  แต่ใกล้ระยะเวลาหรือรอเก็บเกี่ยว เพื่อเป็นการประหยัดเวลาต่อเนื่องระหว่างการปลูกปอเทือง

                       เพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดกับพืชหลัก สามารถปลูกพืชหลักในเวลาถัดไปได้ทันฤดู ในขณะดินมีความชื้นอยู่
                       และปอเทืองจะเป็นพี่เลี้ยงให้กับพืชหลักที่ปลูกในระยะแรกเริ่ม ปอเทืองให้น้ าหนักสดประมาณ 1.5-
                       3.0  ตันต่อไร่ ให้ธาตุไนโตรเจนประมาณ 10-20  กิโลกรัมต่อไร่ เทียบกับปุ๋ยยูเรียและแอมโมเนียม
                       ซัลเฟตได้ประมาณ 23-48  และ 47-95  กิโลกรัม หรือมีเปอร์เซ็นต์ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42