Page 118 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 118
113
ความกวางของแถบ(ฟุต)
ความลาดเท (%)
ดินดี ดินปานกลาง ดินเลว
4-10 125 100 75
10-15 100 75 60
15-20 60 60 60
ที่มา : สมเจตน (2526) การอนุรักษดินและน้ํา
ในสภาพของดินที่มีการซาบซึมน้ําแตกตางกัน ดินที่มีการซาบซึมน้ําปานกลางจัดไดวา เปนดินที่
เหมาะสมตอการจัดปลูกพืชสลับเปนแถบอยางยิ่ง มีคําแนะนําใหใชแนวความกวางของแถบปลูกพืชไวดังนี้
ความลาดเท (%) ความกวางของแถบ (เมตร)
2-5 30-33
6-9 24
10-14 21
15-20 15
ที่มา : สมเจตน (2526) การอนุรักษดินและน้ํา
เพื่อความสะดวกในการใชเครื่องมือทุนแรงเขาไปปฏิบัติการ อาทิ ไถพรวนดิน การฉีดพนยา
ปองกันกําจัดศัตรูพืช การใสปุย และการเก็บเกี่ยว ควรจะปรับความกวางของแถบใหมีขนาดพอดีและ
เหมาะสมกับการใชเครื่องมือทุนแรงตางๆ ในกรณีที่ความลาดเทของพื้นที่ไมสม่ําเสมอกัน อาจมีความจําเปน
ในการพิจารณากําหนดแถบพืชอันไหนควรมีความกวางสม่ําเสมอกัน และแถบพืชอันใดควรมีความกวางไม
เสมอกัน โดยทั่วๆ ไปแถบของพืชหลักหรือพืชไร มักจะกําหนดใหมีความกวางสม่ําเสมอกัน เพื่อใหเกิด
ความสะดวกในการปฏิบัติจัดการ สวนแถบของหญาหรือ พืชคลุมดินนั้นเปนแถบที่มีความกวางไมสม่ําเสมอ
กันไดและไมบังเกิดผลเสียอะไร
ในประเทศสหรัฐอเมริกาไดมีการพัฒนากําหนดสูตร เพื่อใชคํานวณหาความกวางของแถบปลูกพืช
การคํานวณหาความกวางของแถบปลูกพืชในบริเวณรัฐทางภาคตะวันออกเฉียงใตของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมี
ลักษณะดินฟาอากาศและปริมาณฝนตกคอนขางซุก ใกลเคียงกับประเทศไทยมากที่สุด จึงคาดวาสูตรที่จะ
กลาวนี้เหมาะสําหรับนํามาใชกับการปลุกพืชสลับเปนแถบในประเทศไทยได คือ
W = 169 – 7S
ในที่นี้
W = ความกวางของแถบปลูกพืช (ฟุต)
S = ความลาดเทของพื้นที่ (เปอรเซ็นต)