Page 116 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 116
111
(4) การไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับนี้ เปนวิธีการขั้นพื้นฐานในการอนุรักษดินและน้ํา ซึ่ง
มาตรการอนุรักษดินและน้ําวิธีการอื่นๆ จะตองอาศัยวีการนี้ เชน การปลูกพืชสลับเปนแถบ การปลูกพืช
หมุนเวียน การปลูกพืชแซม การปลูกพืชเหลี่อมฤดู เปนตน
(5) ประสิทธิภาพการอนุรักษดินและน้ําจะลดลง เมื่อความลาดเทของพื้นที่เกิน 8 เปอรเซ็นต
อยางไรก็ตาม เพื่อใหการไถพรวนมีประสิทธิภาพตอการอนุรักษดินและน้ํา ไดมีการแบงชนิดของ
การไถพรวนแบบอนุรักษดิน ไวดังนี้คือ
(1) Chisel plow system การไถพรวนดวยไถสิ่วบนพื้นที่ลาดเทจะมีการสูญเสียดินนอยตอการไถ
ดวยไถหัวหมู ลักษณะของไถสิ่วจะเปนแผนเหล็กโคงคลายรูปตัวยู ปลายขางหนึ่งจะเชื่อมติดกับแทงเหล็ก
สวนปลายขางหนึ่งจะมีลักษณะแหลมสําหรับตะกุยดิน บนแทงเหล็กที่กลาวมานี้จะมีไถสิ่วติดไว 4-6 อัน
โดยมีระยะหางๆ กัน การไถดวยไถสิ่วนี้จะทําใหดินที่แนนมีลักษณะรวนซุยขึ้น
(2) No-till system ไดแกการปลูกพืชโดยไมมีการไถพรวนดิน แตใชยากําจัดวัชพืชแทน วิธีนี้ใชได
ดีกับการปลูกขาวโพดและถั่วเหลือง ประโยชนของการปลูกพืชแบบวิธีนี้ก็คือ ลดการชะลางพังทลายของดิน
เศษเหลือของพืชจะเปนวัตถุคลุมดินซึ่งจะชวยลดปริมาณน้ําที่ไหลบา และสลายตัวใหอินทรียวัตถุแกดิน
ตอไป นอกจากนี้โครงสรางของดินยังไมถูกทําลายดวย
(3) Mulch tillage การไถพรวนโดยปลอยเศษเหลือของพืชอยูที่ผิวดินและใตดิน
(4) Minimum tillage เปนการไถพรวนนอยที่สุด คือ ใหมีจํานวนครั้งของการไถพรวนนอยที่สุดใน
การเตรียมดินและปลูกพืช โดยมากจะมีการไถพรวน การปลูก และการใสปุย จะกระทําพรอมกันครั้งเดียว
เพื่อลดจํานวนครั้งของรถไถที่จะอยูในแปลง โดยใหรถไถอยูในแปลงครั้งเดียว ใหสามารถปฏิบัติไดครบทุก
กิจกรรมตอการปลูกพืชหนึ่งครั้ง
(5) Subsoiling การไถพรวนทําลายชั้นดินที่แนทึบ (Hard pan) ซึ่งเปนอุปสรรคทําใหน้ําไหลซึมลง
ในดินไดชา และจํากัดการเจริญเติบโตของรากพืช การทําลายชั้นดินที่แนทึบ ทําใหน้ําไหลซึมสวนลึกของดิน
ไดสะดวกมากขึ้นจึงลดประมาณน้ําไหลบาบนผิวดิน ชวยใหรากพืชชอนไชดูดแรธาตุอาหารและน้ําไดลึก
มากขึ้น และทําใหดินลางมีความพรุนมากขึ้น
(6) Contour tillage การไถพรวนตามแนวระดับ ถามีการนําวิธีการถพรวนแบบอนุรักษดินตามขอ
1-5 มาปฏิบัติรวมดวย ก็จะทําใหการไถพรวนตามแนวระดับมีประสิทธิภาพในการอนุรักษดินและน้ํามากขึ้น
11.2.2. การปลูกพืชสลับเปนแถบ (Strip cropping system) หมายถึงการปลูกพืชชนิดตางๆ เปน
แถบหรือแนวกวางๆ สลับกันไปโดยขวางความลาดเทของพื้นที่ตามแนวระดับหรือไมเปนไปตามแนวระดับ
ก็ได ตามปกติแลว การปลูกพืชสลับเปนแถบมักจะประกอบดวยแถบของพืชที่ปลูกชวยอนุรักษดิน ไดแก
หญาและพืชคลุม กับแถบของพืชไร ไดแก ขาวโพด ขางฟาง ฝาย มันสําปะหลัง เปนตน หรือเปนการปลูกพืช
สลับระหวางแถบของพืชที่ปลูกระยะแคบหรือถี่กับแถบของพืชที่ปลูกระยะกวางหรือหาง วัตถุประสงคของ
การปลูกพืชสลับเปนแถบเพื่อลดปริมาณการเคลื่อนยายหนาดิน และลดอัตราการไหลบาของน้ําฝนผานพื้นที่
เพาะปลูกตามแนวความลาดเท การปลูกพืชในระบบนี้จะมีประสิทธิภาพดี ก็ตอเมื่อสภาพพื้นที่มีความลาดเท