Page 121 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 121
116
ประเภทนี้จะเปนพืชผลาญดิน ซึ่งเมื่อนําไปปลูกแลวผลผลิตของพืชจะลดลงอยางมากในเวลาไมนาน ทําให
ดินเสื่อมโทรมอยางรวดเร็ว และทําใหเกิดการชะลางพังทลายของดินไดงาย
(2) Constructive crop rotation System คือการปลูกพืชหมุนเวียนที่นําไปปฏิบัติแลวจะรักษาความ
อุดมสมบูรณของดินใหดีอยูเสมอ และรักษาความสามารถในการใหผลผลิตดินคงที่ หรืออาจจะเปนการเพิ่ม
ความอุดมสมบูรณของดินและความสามารถในการใหผลผลิตของดินก็ได พืชที่ปลูกในประเภทนี้จะ
ประกอบดวย พืชอนุรักษดิน พืชที่ชวยสรางดินและพืชผลาญดิน โดยนําพืชทั้ง 3 ชนิด ไปปลูกสลับกันบน
พื้นที่แปลงเดียวกัน
11.2.4. การปลูกพืชแซม (Intercropping system ) หมายถึง การปลูกพืชตั้งแต 2 ชนิด ขึ้นไปบน
พื้นที่ในเวลาเดียวกัน โดยทําการปลูกพืชที่สองแซมลงในระหวางแถวของพืชแรกหรือพืชหลัก สําหรับเวลา
ที่ปลูกพืชที่สองอาจปลูกพรอมกับพืชแรกหรือหลังเล็กนอยก็ได ทั้งนี้ขึ้นอยูกับชนิดของพืชแรกหรือพืชหลัก
ถาพืชหลักเปนไมยืนตน ก็สามารถเลือกเวลาปลูกพืชที่สองแซมไดตามความเหมาะสม อนึ่ง จํานวนแถวของ
พืชแซมหรือพืชที่สองนั้น ไมจําเปนจะตองอยูในลักษณะพืชแซมแถวหนึ่งสลับพืชหลักแถวหนึ่งก็ได ดังนั้น
จํานวนสัดสวนจํานวนแถวระหวางพืชแซมกับพืชหลักนั้น จึงไมแนนอนขึ้นอยูกับชนิดของพืชหลักและพืช
แซม เชน การปลูกถั่วลิสง 2 แถว หรือถั่วเขียว 2 แถว แซมในระหวางแถวมันสําปะหลัง การปลูกถั่วเขียว 1
แถว แซมระหวางขาวโพด และการปลูกถั่วลิสง หรือถั่วเขียว หรือถั่วเหลือง หรือขาวโพด หรือพืชผักตางๆ
เปนตน อยางไรก็ตาม การปลูกพืชแซมนี้บางทานเรียกวาการปลูกพืชเปนแถวสลับกัน หรือการปลูกพืชแทรก
ระหวางแถว ซึ่งก็มีความหมายและวิธีการปฏิบัติเชนเดียวกับการปลูกพืชแซมทุกประการ ความสําคัญของ
การปลูกพืชแซมที่มีตอการอนุรักษดินและน้ํา
(1) พืชแซมมีอายุสั้นกวาพืชหลัก แตมีการเจริญเติบโตเร็วกวาในระยะแรก จึงชวยปกคลุมผิวดิน
และปองกันการชะลางพังทลายของดินที่เกิดขึ้นในตนฤดูฝน
(2) การปลูกพืชแซม เปนการเพิ่มประชากรและความหนาแนนของพืชตอพื้นที่ ดังนั้น พื้นผิวดินจึง
มีพืชปกคลุมมากกวาการปลูกพืชอยางเดียว ใบของพืชเหลานั้นจะปกคลุมดิน ปองกันไมใหเม็ดฝนตกกระทบ
ผิวดิน จึงชวยปองกันการชะลางพังทลายของดิน นอกจานี้ ลําตนพืชชวยชะลอความเร็วของน้ําไหลบาและ
รากของพืชหลักและพืชแซมชวยเพิ่มอัตราการซาบซึมน้ํามากขึ้น
(3) หลังจากการเก็บเกี่ยวซากของพืชแซมจะเปนวัตถุคลุมดิน ลดการไหลบาของน้ํา จึงชวยปองกัน
การชะลางพังทลายของดิน และสลายตัวใหอินทรียวัตถุแกดินตอไป
(4) มีการดูดใชแรธาตุอาหารจากดินสม่ําเสมอและมีประสิทธิภาพ เพราะวาระบบรากของพืชหลัก
และพืชแซมจะแตกตางกัน จึงชอนไชดูดแรธาตุอาหารจากดินไดลึกแตกตางกัน นอกจากนี้ พืชแซมยัง
สามารถดูดปุยสวนเกินที่ใสใหกับพืชหลักได แทนที่จะสูญเสียโดยการชะลาง
ปจจัยที่เกี่ยวของตอระบบการปลูกพืชแซม มีดังนี้
(1) แสงแดด การปลูกพืชแซมจะมีการแขงขันและแยงแสงสวางระหวางพืชหลักและพืชแซม เพื่อ
ใชในการสังเคราะหอาหาร ดังนั้น ควรเลือกพืชที่มีความตองการแสงสวางแตกตางกัน เชน ปลูกออยซึ่งเปน