Page 117 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 117
112
6-15 เปอรเซ็นต และแถบของพืชที่ปลูกมีความกวาง 10-25 เมตร ความสําคัญของการปลูกพืชสลับเปนแถบ
ตอการอนุรักษดินและน้ํา
(1) การปลูกพืชสลับเปนแถบ ไดเปนที่ยอมรับกันแลววา เปนวิธีที่สามารถลดการชะลางพังทลาย
ของดินแบบแผน (Sheet erosion) แบบริ้ว (Rill erosion) และแบบรองน้ํา (Gully erosion) อยางไดผล อีกทั้ง
ยังเปนวิธีที่ควบคุมและปองกันการชะลางพังทลายของดินไดอยางมีประสิทธิภาพมากกวาการไถพรวนดิน
และการปลูกพืชตามแนวระดับ (Contour cultivation) อยางเดียวถึง 2 เทา หลักการและความสําคัญของการ
ปลูกพืชสลับเปนแถบที่มีตอการอนุรักษดินและน้ํา กลาวคือ เมื่อฝนตกลงบนพื้นที่มีความลาดเทจะเกิดน้ํา
ไหลบาทวมผิวดินบริเวณแถบปลูกพืชไร เมื่อน้ําไหลบามาถึงแถบปลูกพืชที่ชวยอนุรักษดิน หรือพืชคลุม
สวนหนึ่งขอน้ําที่ไหลบาจะถูกดูดซับไวดวยพืช อีกหลายสวนจะถูกแถบของพืชเปนแนวสกัดกั้นและรับแรง
ปะทะเอาไว ทําใหอัตราการไหลของน้ําลดลง ชวยใหพลังแรงของน้ําไหลบาที่จะกอใหเกิดการชะลาง
พังทลายหนาดินลดนอยลงดวย ปริมาณดินและแรธาตุอาหารที่ไหลลงมากับน้ําจากพื้นที่ตอนบนถูกพัดพามา
ตกตะกอนทับถมลงในบริเวณแถบที่ปลูกพืชชวยอนุรักษดิน เมื่อมีการสลับพื้นที่ปลูกพืชครั้งตอไป แถบที่
ปลูกพืชชวยอนุรักษดินและน้ําอยูเดิมจะสามารถอํานวยประโยชนดานธาตุอาหารในดินใหกับแถบพืชไรที่
ปลูกใหม
(2) ความกวางของแถบปลูกพืชแถบปลูกพืชชนิดตางๆ ที่ปลูกสลับกันนั้นอาจมีความกวางของ
แถบที่เทากันหรือไมเทากันก็ได โดยทั่วไปความกวางของแถบปลูกพืชจะอยูระหวาง 18 -45 เมตร (60-150
ฟุต) ขึ้นอยูกับปริมาณน้ําฝน ชนิดดิน สภาพความลาดเท และชนิดพืชที่ปลุก หากดินที่ปลูกพืชมีความงายตอ
การชะพังทลายความลาดเทสูงและมีฝนตกชุก แถบปลูกพืชควรกําหนดใหแคบลง อยางไรก็ตาม ความกวาง
ของแถบปลูกพืชเมื่อยึดหลักระดับความลาดเทของพื้นที่แลว ไดมีคําแนะนําไวดังนี้
ความลาดเท (%) ความกวางของแถบ (เมตร)
2.1-7.0 30.0-28.4
7.1-12.0 28.4-22.2
12.1-18.0 22.2-18.0
18.1-24.0 18.0-15.0
ที่มา : (2526) การอนุรักษดินและน้ํา
ความกวางขอบแถบปลูกพืชอาจมีความผันแปรไปตามสภาพความอุดมสมบูรณของดิน และระดับ
ความลาดเทที่แตกตางกัน ซึ่งผลจากการทดลอง ณ สถานีการเกษตรมลรัฐวิสคอนชิน สหรัฐอเมริกา ได
กําหนดความกวางของแถบปลูกพืชไวดังนี้