Page 49 - ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน : กรณีศึกษาการปลูกข้าวโพดหวาน บ้านท่าพยอม ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
P. 49

37


                                9) อัตราและวิธีการใช้ปุ๋ยหมัก
                                ปุ๋ยหมักส่วนใหญ่จะมีปริมาณธาตุอาหารพืชค่อนข้างต่ า แต่มีบทบาทมากในการปรับปรุง

                  คุณสมบัติของดิน อัตราการใส่ปุ๋ยหมักในดินที่เป็นดินทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ า โดยเฉพาะทาง
                  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะใช้ในปริมาณที่สูงกว่าในดินเหนียวหรือดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์
                  ปานกลางทางภาคเหนือและภาคกลาง ระยะเวลาที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ยหมักเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ
                  พืชที่ปลูกควรใส่ในช่วงเตรียมดินและไถกลบลงไปในดิน ขณะที่ดินมีความชื้นเพียงพอที่จะท าให้ธาตุอาหารที่

                  มีอยู่เป็นประโยชน์ต่อพืชสูงสุด อัตราแนะน าและวิธีการใส่ปุ๋ยหมัก มีดังนี้
                                        9.1) ข้าว : ใช้ 2 ตันต่อไร่ หว่านให้ทั่วพื้นที่แล้วไถกลบก่อนปลูกพืช
                                        9.2) พืชไร่ : ใช้ 2 ตันต่อไร่ โรยเป็นแถวตามแนวปลูกพืชแล้วคลุกเคล้ากับดิน
                                        9.3) พืชผัก : ใช้ 4 ตันต่อไร่ ว่านให้ทั่วแปลงไถกลบขณะเตรียมดิน

                                        9.4) ไม้ผล ไม้ยืนต้น
                                             (1)  เตรียมหลุมปลูก :  ใช้ 20  กิโลกรัมต่อหลุม คลุกเคล้าปุ๋ยหมักกับดิน
                  ใส่รองก้นหลุม
                                             (2)  ต้นพืชที่เจริญแล้ว : ใช้ 20-50  กิโลกรัมต่อต้น โดยขุดร่องลึก 10

                  เซนติเมตร ตามแนวทรงพุ่มของต้น ใส่ปุ๋ยหมักในร่องและกลบด้วยดินหรือหว่านให้ทั่วภายใต้ทรงพุ่ม
                                        9.5) ไม้ตัดดอก : ใส่ปุ๋ยหมัก 2 ตันต่อไร่ ไม้ดอกยืนต้นใช้ 5-10 กิโลกรัมต่อหลุม
                                10) ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก

                                        10.1) ปรับปรุงสมบัติกายภาพดิน ท าให้ดินร่วนซุย การระบายอากาศ และอุ้มน้ า
                  ของดินดีขึ้น
                                        10.2) เป็นแหล่งธาตุอาหารพืชทั้ง ธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และจุลธาตุ
                                        10.3)  ดูดยึดและเป็นแหล่งเก็บธาตุอาหารในดินไม่ให้ถูกชะล้างสูญเสียไปได้ง่าย
                  และปลดปล่อยออกมาให้พืชใช้ประโยชน์ทีละน้อยตลอดฤดูปลูก

                                        10.4) เพิ่มความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดเป็นด่างของดิน
                                        10.5)  เพิ่มแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ดิน  ท าให้ปริมาณและกิจกรรมจุลินทรีย์ที่
                  เป็นประโยชน์ในดินเพิ่มขึ้น (กรมพัฒนาที่ดิน, 2552ข)


                         3.3.2 การผลิตน้ าหมักชีวภาพ โดยใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.2
                         น้ าหมักชีวภาพ เป็นของเหลวซึ่งได้จากการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้จากพืชหรือสัตว์ที่มีลักษณะสด
                  อวบน้ าหรือมีความชื้นสูง โดยอาศัยกิจกรรมของจุลินทรีย์ทั้งในสภาพที่ไม่มีออกซิเจนและมีออกซิเจน ท าให้

                  ได้ฮอร์โมนหรือสารเสริมการเจริญเติบโตของพืช เช่น ออกซิน จิบเบอเรลลิน และไซโตไคนิน รวมทั้งกรด
                  อินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดแลคติก กรดอะซีติก กรดอะมิโน และกรดฮิวมิก (กรมพัฒนาที่ดิน, 2553ก)
                         สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติในการย่อยสลายวัสดุการเกษตรในลักษณะ
                  สด อวบน้ าหรือมีความชื้นสูง เพื่อผลิตน้ าหมักชีวภาพโดยด าเนินกิจกรรมทั้งในสภาพที่ไม่มีออกซิเจนและมี
                  ออกซิเจน ประกอบด้วยจุลินทรีย์ 5 ชนิด คือ ยีสต์ผลิตแอลกอฮอล์และกรดอินทรีย์ (Pichia sp.) แบคทีเรีย

                  ผลิตกรดแลคติค  (Lactobacillus  sp.)  แบคทีเรียย่อยโปรตีน  (Bacillus  megaterium)  แบคทีเรียย่อย
                  ไขมัน (Bacillus subtilis) และแบคทีเรียละลายสารประกอบฟอสเฟต (Burkhoderia sp.)
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54