Page 51 - ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน : กรณีศึกษาการปลูกข้าวโพดหวาน บ้านท่าพยอม ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
P. 51

39


                                4) การพิจารณาน้ าหมักชีวภาพที่สมบูรณ์แล้ว
                                        4.1) การเจริญของจุลินทรีย์น้อยลงโดยคราบเชื้อที่พบในช่วงแรกจะลดลง

                                        4.2) ไม่พบฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
                                        4.3) กลิ่นแอลกอฮอล์ลดลง
                                        4.4) ความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 3.0-4.0
                                5) คุณสมบัติของน้ าหมักชีวภาพ

                                        5.1)    มีฮอร์โมนหรือสารเสริมการเจริญเติบโตหลายชนิด เช่น ออกซิน
                  จิบเบลเรลลิน ไซโตไคนิน
                                        5.2)  มีกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดแลคติก กรดอะซิติก กรดอะมิโน
                  และกรดฮิวมิก

                                        5.3) มีวิตามินบี เช่น วิตามินบีสอง และไนอะซีน
                                        5.4) ความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 3.0–4.0
                                6) อัตราและวิธีการใช้
                                เจือจางน้ าหมักชีวภาพต่อน้ า อัตราส่วน 1 : 500 – 1 : 1,000 ฉีดพ่นหรือรดลงดินในช่วง

                  การเจริญเติบโตของพืช
                                7) ประโยชน์ของน้ าหมักชีวภาพ
                                        7.1)  ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช โดยพบว่าน้ าหมักชีวภาพมีฮอร์โมน และ

                  กรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น ออกซิน จิบเบอเรลลิน ไซโตไคนิน กรดแลคติก กรดอะซิติก และกรดอะมิโน
                                        7.2) กระตุ้นการงอกของเมล็ด
                                        7.3) เพิ่มการย่อยสลายตอซังพืช
                                8) สารเสริมการเจริญเติบโตหรือฮอร์โมนพืช
                                การใช้ประโยชน์ของน้ าหมักชีวภาพทางการเกษตร องค์ประกอบที่ส าคัญ คือ สารเสริม

                  การเจริญเติบโตของพืชหรือฮอร์โมน  โดยเป็นสารที่พืชสามารถสร้างเองตามธรรมชาติและมีจุลินทรีย์บาง
                  ชนิดสังเคราะห์ฮอร์โมนได้ ฮอร์โมนที่พบโดยทั่วไปในน้ าหมักชีวภาพและมีบทบาทส าคัญต่อพืช ดังนี้
                                        8.1) ออกซิน ท าให้เซลล์พืชขยายตัวมากขึ้น กระตุ้นการแบ่งเซลล์ มีการเกิดราก

                  ฝอยและรากแขนงเพิ่มมากขึ้น เร่งการเจริญของล าต้น ควบคุมการเจริญของใบ  ส่งเสริมการออกดอก
                  กระตุ้นการสุกของผล
                                        8.2)  จิบเบอเรลลิน กระตุ้นการแบ่งเซลล์ การยืดตัวของล าต้น กระตุ้นการงอก
                  ของเมล็ดและตา ท าลายการพักตัวของเมล็ด พัฒนาการเกิดหน่อข้าง

                                        8.3) ไซโตไคนิน กระตุ้นการแบ่งเซลล์ การเจริญของตาข้าง การขยายตัวของใบ
                  เพิ่มอัตราการเกิดกระบวนการสังเคราะห์แสง ท าให้ใบพืชมีสีเขียวได้นานและร่วงหล่นช้า ท าให้เมล็ดงอกใน
                  ที่มืด ส่งเสริมพืชให้มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายอาหารจากรากไปสู่ยอดพืช
                                        8.4)  กรดอะมิโน ช่วยการแตกยอดใหม่ของพืชเพิ่มขึ้น ท าให้ก้านดอกยาวขึ้น

                  เป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนออกซิน ช่วยท าให้ธาตุอาหารในน้ าหมักชีวภาพอยู่ในรูปของอะมิโนคีเลท
                  พืชสามารถดึงไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว
                                เมื่อน าน้ าหมักชีวภาพไปพ่นที่ใบและรดลงดินจะสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช
                  รวมถึงการติดดอก ออกผลได้เป็นอย่างดี ส าหรับการใช้น้ าหมักชีวภาพให้มีประสิทธิภาพนั้น ควรใช้ควบคู่ไป

                  กับการปรับปรุงบ ารุงดินด้วยอินทรียวัตถุ (กรมพัฒนาที่ดิน, 2545)
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56