Page 52 - ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน : กรณีศึกษาการปลูกข้าวโพดหวาน บ้านท่าพยอม ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
P. 52

40


                         3.3.3 สารควบคุมแมลงศัตรูพืช
                         สารควบคุมแมลงศัตรูพืช เป็นสารสกัดที่ได้จากการหมักพืชสมุนไพร โดยกิจกรรมจุลินทรีย์

                  ประกอบด้วย สารออกฤทธิ์และสารไล่แมลงที่อยู่ในพืชสมุนไพร รวมทั้งกรดอินทรีย์หลายชนิด เพื่อใช้ในการ
                  ป้องกันและก าจัดแมลงศัตรูพืช (กรมพัฒนาที่ดิน, 2553ก)
                         สารเร่งซุปเปอร์ พด.7  เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการหมักและย่อย
                  สลายพืชสมุนไพรชนิดต่างๆ ในสภาพที่ไม่มีออกซิเจนเพื่อผลิตสารป้องกันแมลงศัตรูพืช ประกอบด้วย

                  จุลินทรีย์ 3 ชนิด คือ ยีสต์ผลิตแอลกอฮอล์และกรดอินทรีย์  (Pichia  sp.) แบคทีเรียผลิตกรดแลคติค
                  (Lactobacillus sp.) และแบคทีเรียละลายสารประกอบฟอสเฟต (Burkhoderia sp.)
                                1) วัสดุส าหรับผลิตสารควบคุมแมลงศัตรูพืช
                                        พืชสมุนไพร           30     กิโลกรัม

                                        กากน้ าตาล           10     กิโลกรัม
                                        น้ า                 30     ลิตร
                                        สารเร่งซุปเปอร์ พด.7    1   ซอง (25 กรัม)
                                2) ชนิดพืชสมุนไพร

                                        2.1)  พืชสมุนไพรที่ใช้ป้องกันพวกเพลี้ย ได้แก่ ตะไคร้หอม หางไหล สาบเสือ
                  หนอนตายหยาก บอระเพ็ด กระทกรก และข่า เป็นต้น
                                        2.2)  สมุนไพรป้องกันหนอนกระทู้ หนอนชอนใบ ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร หางไหล

                  ตระไคร้หอม เปลือกแค สาบเสือ หนอนตายหยาก สะเดา ว่านเศรษฐี และว่านน้ า เป็นต้น
                                        2.3) สมุนไพรที่ป้องกันและเป็นพิษต่อแมลงวันทอง ได้แก่ หมาก เมล็ดน้อยหน่า
                  เมล็ดเงาะ ยาสูบ พริกไทยด า ขิง และพญาไร้ใบ เป็นต้น
                                        2.4) สมุนไพรที่ใช้ไล่แมลงไม่ให้วางไข่ ได้แก่ ค าแสด มะกรูด ตะไคร้ เมล็ดละหุ่ง
                  มะนาว พริก และพริกไทย เป็นต้น

                                3) การใช้สารควบคุมแมลงศัตรูพืชให้มีประสิทธิภาพ
                                        3.1) ใช้ให้ถูกส่วนในต้นพืชจะมีสารออกฤทธิ์ไม่เท่ากันทุกส่วนจึงควรเลือกใช้ส่วน
                  ของพืชที่มีสารออกฤทธิ์ในปริมาณสูง เพื่อมีประสิทธิภาพในการป้องกันแมลงศัตรูพืช เช่น สารสกัด

                  อะซาดิแรคตินที่พบในสะเดาจะมีมากที่เนื้อในเมล็ด หรือสารสกัดโรตินินที่พบในหางไหลแดงจะมีปริมาณ
                  มากที่ส่วนราก เป็นต้น
                                        3.2)  ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรที่ผลิตจากสารเร่ง พด.7 ในอัตราความเข้มข้นที่
                  เหมาะสมและตามที่แนะน า หากฉีดพ่นในอัตราส่วนความเข้มข้นสูงเกินไปอาจจะส่งผลเป็นพิษต่อพืชได้

                                        3.3) ใช้ให้ถูกต้อง เนื่องจากสมุนไพรมีชื่อพ้องหรือซ้ ากันมาก และยังมีชื่อท้องถิ่น
                  ซึ่งเรียกต่างกันออกไปท าให้เกิดการสับสนในการใช้งาน
                                        3.4) จุดด้อยของสารสกัดจากสมุนไพร คือ สารออกฤทธิ์สลายตัวเร็ว ไม่ทนทาน
                  ต่อแสงแดดจึงควรฉีดพ่นตอนเช้าก่อนแดดออก หรือตอนเย็นหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ฤทธิ์ของสารสกัด

                  ไม่แรงเหมือนสารเคมีจึงต้องฉีดพ่นบ่อยครั้ง
                                        3.5) ไม่ควรใช้สารสกัดสมุนไพรตัวใดตัวหนึ่งเพียงอย่างเดียวเป็นประจ า จะท าให้
                  แมลงและหนอนปรับตัวกลายเป็นดื้อยาได้ ควรเปลี่ยนหรือสลับกันใช้ ในการหมักสมุนไพรจึงควรหมักพืช
                  สมุนไพรแต่ละชนิดแยกกันเพื่อสะดวกกับการเลือกใช้ และปรับเปลี่ยนจะท าให้ได้ผลแน่นอนขึ้น
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57