Page 53 - ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน : กรณีศึกษาการปลูกข้าวโพดหวาน บ้านท่าพยอม ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
P. 53

41


                                        3.6) ควรผสมสารจับใบ เช่น น้ าสบู่ น้ ายาล้างจาน แชมพู อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อ
                  น้ า 20 ลิตร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดสมุนไพร (กรมพัฒนาที่ดิน, 2553ข)

                                4) วิธีผลิตสารควบคุมแมลงศัตรูพืช
                                สับพืชสมุนไพรให้เป็นชิ้นเล็ก ทุบหรือต าให้แตก น าพืชสมุนไพรและร าข้าวใส่ลงในถังหมัก
                  ละลายกากน้ าตาลในน้ า แล้วใส่สารเร่งซุปเปอร์ พด.7 ผสมให้เข้ากันนาน 5 นาที เทสารละลายใส่ลงในถัง
                  หมักคลุกเคล้าและคนให้เข้ากัน ปิดผาถังไม่ต้องแน่น ตั้งทิ้งไว้ในที่ร่ม และคนทุกวันใช้ระยะเวลาในการหมัก

                  21 วัน (กรมพัฒนาที่ดิน, 2553ก)
                                5) การพิจารณาสารควบคุมแมลงศัตรูพืชที่หมักสมบูรณ์แล้ว
                                        5.1) เกิดฝ้าของเชื้อจุลินทรีย์เจริญเต็มผิวหน้าหลังจากการหมัก 5-7 วัน หลังจาก
                  นั้นฝ้าจุลินทรีย์จะค่อยๆ ลดลง

                                        5.2) ไม่ปรากฏฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือมีน้อยลง
                                        5.3) กลิ่นแอลกอฮอล์ลดลง
                                        5.4) สารละลายมีสภาพเป็นกรด ระหว่าง 3–4 และได้กลิ่นเปรี้ยว
                                6) คุณสมบัติของสารควบคุมแมลงศัตรูพืช

                                        6.1)  มีสารออกฤทธิ์ที่สกัดได้จากสมุนไพรชนิดต่างๆ เช่น สารอะซาติ แรคติน A
                  สารโรตินิน pinene neptha quinine geraniol citronellal limonene และ phellandrene เป็นต้น
                                        6.2) มีสารพวก repellant สามารถไล่แมลงชนิดต่างๆ เช่น alkaloid glycoside

                  saponin gum essential oil tannin และ steroid เป็นต้น
                                        6.3)  มีกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดแลคติก กรดอะซิติก กรดฟอร์มิก และ
                  กรดอะมิโน เป็นต้น
                                        6.4) มีฮอร์โมนหลายชนิด เช่น ออกซิน ไซโตไคนิน โดยเฉพาะจิบเบอร์เรลลิน
                                        6.5) มีความเป็นกรดเป็นด่างระหว่าง 3.0-4.0

                                7) อัตราการใช้สารควบคุมแมลงศัตรูพืช
                                เจือจางสารควบคุมแมลงศัตรูพืชต่อน้ า เท่ากับ 1  :  100  ฉีดพ่นทุกๆ 3–5 วัน และฉีด
                  ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการระบาดของหนอนและเพลี้ย ควรฉีดพ่นช่วงตัวอ่อนหรือช่วงที่เพลี้ย

                  ยังไม่เกิดแป้ง
                                8) วิธีการใช้สารควบคุมแมลงศัตรูพืช
                                        8.1)  พืชไร่ พืชผัก และไม้ดอก ฉีดพ่นสารควบคุมแมลงศัตรูพืชที่เจือจางแล้ว
                  อัตรา 50 ลิตรต่อไร่

                                        8.2) ไม้ผล ฉีดพ่นสารควบคุมแมลงศัตรูพืชที่เจือจางแล้วอัตรา 100 ลิตรต่อไร่
                                ควรใส่สารจับใบ เช่น น้ ายาล้างจาน 10 มิลลิลิตร ลงในสารควบคุมแมลงศัตรูพืช 10 ลิตร
                  และท าการฉีดพ่นที่ใบ ล าต้นหรือบริเวณที่มีหนอนหรือเพลี้ยอาศัยอยู่
                                9) ประโยชน์ของสารควบคุมแมลงศัตรูพืช

                                ป้องกันแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยต่างๆ หนอนเจาะผลและล าต้น หนอนใยผัก หนอนชอน
                  ใบ หนอนคืบ หนอนกระทู้ หนอนกอ ไรแดง และแมลงหวี่ เป็นต้น
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58