Page 9 - การศึกษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพสำหรับนาข้าวต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตข้าวปทุมธานี 1 ในดินเหนียว จ.สุพรรณบุรี Study efficiency of biofertilizer for rice cultivation on growth and rice yield in clayer soil in Suphanburi province.
P. 9
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
แบบประณีตมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกว่าระบบดั้งเดิม และสามารถยืนยันการคงอยู่ของเชื้อทั้งสอง
ชนิดด้วยวิธี fluorescent antibody (FA) และระบบการปลูกข้าวแบบประณีตเอื้ออ านวยให้เชื้อทั้ง 2 ชนิด มี
ประสิทธิภาพการตรึงไนโตรเจนสูงกว่าระบบดั้งเดิมอย่างมีนัยส าคัญ เมื่อท าการวัดการเจริญเติบโตของข้าว
พบว่า น้ าหนักแห้งต้น ความสูงต้น ความยาวราก ปริมาตรราก และน้ าหนักแห้งรากเฉลี่ย ทุกระยะการ
เจริญเติบโตไม่แตกต่างกัน ระหว่างการใส่เชื้อ และไม่ใส่เชื้อ แต่ระบบการปลูกข้าวแบบประณีตให้ผลสูงกว่าใน
ระบบดั้งเดิม การวัดองค์ประกอบผลผลิต พบว่า การใส่เชื้อท าให้องค์ประกอบผลผลิต สูงกว่าการไม่ใส่เชื้อใน
ระบบการปลูกข้าวแบบประณีต ส่วนในระบบดั้งเดิมไม่แตกต่างกันทั้ง 2 การทดลอง ส่วนผลผลิต พบว่าใน
ระดับกระถางโดยทั่วไประบบการปลูกข้าวแบบประณีตสูงกว่าในระบบดั้งเดิม และในระบบการปลูกข้าวแบบ
ประณีตการใส่เชื้อมีแนวโน้มให้ผลผลิตสูงกว่า การไม่ใส่ เชื้อเล็กน้อย แต่ในระบบดั้งเดิมการใส่เชื้อท าให้
ผลผลิตแตกต่างจากการไม่ใส่เชื้อ ส่วนในระดับแปลงทดลอง พบว่า ระบบการปลูกข้าวแบบประณีตให้ผลผลิต
สูงกว่าระบบดั้งเดิม โดยการใส่เชื้อ Az. largimobile ร่วมกับ A. vinelandii ให้ผลผลิตสูงที่สุดส่วนการ
ปลูกข้าวในระบบดั้งเดิมการใส่เชื้อ Az. largimobile เพียงอย่างเดียวให้ผลผลิตสูงที่สุด
อังคณา และคณะ (2561) เตรียมกรด 5 อะมิโนลีวูลินิกจากน้ าเลี้ยงเซลล์แบคทีเรียสังเคราะห์แสง
Rhodopseudomonas palustris JP255 น าไปจับกับไคโตซานชนิดที่มีน้ าหนักโมเลกุลต่างภายใต้สภาวะ
คลื่นความถี่สูง จากนั้นน ามาท าให้เป็นผงด้วยวิธีฟรีซดรายน์ เมื่อวัดขนาดอนุภาคด้วยเครื่อง scanning
electron microscope พบว่าได้สารอนุภาคขนาด 50 นาโนเมตร น าไปใช้เป็นสารเร่งการเจริญเติบโตและ
เพิ่มผลผลิตของข้าวพันธุ์หอมนิล (Oryza sativa L.) ที่ปลูกในกระถางพลาสติก โดยวางแผนการทดลองแบบ
สุ่มสมบูรณ์ (randomized complete block design: RCBD) ประกอบด้วย 10 ชุดการทดลอง คือ ALA ผง
(ที่ความเข้มข้น 1 5 และ 10 ไมโครโมลาร์) ALA-nano (ที่ความเข้มข้น 1 5 และ 10 ไมโครโมลาร์) และไคโต
ซาน (ที่ระดับความเข้มข้นเดียวกับที่ใช้ใน ALA-nano) ฉีดพ่นต้นข้าวที่ 15 และ 30 วัน หลังย้ายต้นกล้าลง
กระถาง จากผลการทดลองพบว่าการใช้ ALA-nano (ที่ความเข้มข้น 1 ไมโครโมลาร์) มีแนวโน้มในการเพิ่มการ
เจริญโตด้านความสูงของต้นข้าวจากโคนถึงปลายใบ และจ านวนการแตกกอ (แขนง) ต่อต้นของต้นข้าวดีที่สุด
เพิ่มผลผลิตด้านจ านวนรวงต่อกอ ความยาวรวงหลัก จ านวนเมล็ดต่อรวง จ านวนเมล็ดดีต่อรวง และจ านวน
เมล็ดลีบต่อรวง น้ าหนักเมล็ดข้าวเปลือก 100 เมล็ด สูงกว่าทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยส าคัญ ดังนั้นการใช้
สารชีวภัณฑ์ ALA-nano จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งส าหรับเกษตรกรที่จะน ามาใช้เพิ่มเจริญเติบโตและเพิ่ม
ผลผลิต ทั้งยังมีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
Gosal et al. (2012) ศึกษาผลของการใช้เชื้อ Azotobacter ต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตอ้อยใน
อินเดีย โดยการน าเชื้อ Azotobacter chroococcum คลุกผสมกับผงถ่าน (activated charcoal) เพื่อให้อยู่
ในรูปของปุ๋ยชีวภาพส าหรับการใช้งาน และน าไปใช้ร่วมกับการปลูกอ้อยที่มีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสองระดับ คือ
75 และ 100 เปอร์เซ็นต์ พบว่าอ้อยที่ปลูกโดยมีเชื้อ Azotobacter ช่วยเพิ่มปริมาณผลได้ของอ้อย นั่นคือ ค่า
commercial cane sugar percent (CCS%) ของอ้อยในแปลงทดลองสูงกว่าชุดการทดลองควบคุมที่ไม่มี
การเติมเชื้อดังกล่าว
Jan et al. (2009) ศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพจาก Azotobacter ร่วมกับ Mycorrhizae และการใช้
ปุ๋ยยูเรียต่อการเจริญของถั่วฟาบา (faba beans) พบว่าพืชที่ได้รับปุ๋ยชีวภาพมีปริมาณคลอโรฟีลและคาร์โรทีนสูง
กว่าพืชที่ได้รับปุ๋ยยูเรีย ทั้งนี้พืชที่ได้รับปุ๋ยชีวภาพยังมีปริมาณไนเตรทและกิจกรรมของเอนไซม์ไนเตรทรีดัก
เทส (nitrate reductase activity) สูงกว่าชุดควบคุม ในขณะที่พืชกลุ่มที่ได้รับปุ๋ยยูเรียมีปริมาณโพรลีน
มากกว่ากลุ่มที่ได้รับปุ๋ยชีวภาพ นอกจากนี้พบว่าในพืชกลุ่มที่ได้รับปุ๋ยชีวภาพมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าพืชที่
ได้รับปุ๋ยยูเรีย
Khan et al. (2010) ศึกษาผลของแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของ
Brassica Juncea ซึ่งเป็นพืชน้ ามันของอินเดีย โดยการแช่เมล็ดพืชในน้ าที่มีการเติมเชื้อ Azotobacter และ