Page 13 - การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม
P. 13
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
4
แนวทางเกษตรอินทรีย์อาศัยกลไกและกระบวนการของระบบนิเวศในการท าการผลิต ดังนั้นเกษตร
อินทรีย์จะประสบความส าเร็จได้ เกษตรกรจ าเป็นต้องเรียนรู้กลไกและกระบวนการของระบบนิเวศ
จากความส าคัญข้างต้น ท าให้เห็นถึงความเสียหายและเกิดผลกระทบจากการพัฒนา
ของภาคการเกษตรแบบเคมีซึ่งนับวันมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ น ามาซึ่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรัพยากรดินที่เป็นส่วนส าคัญของสารอาหารสิ่งแวดล้อม เมื่อสารอาหารหลัก
เสียหายก็จะเกิดผลเสียหายเป็นลูกโซ่ ดังนั้น เกษตรอินทรีย์จึงเป็นส่วนส าคัญส าหรับการน ามาใช้
เพื่อช่วยเหลือธรรมชาติในดินให้มีอาหารที่จะหล่อเลี้ยงพืช ก่อให้เกิดความสมดุลของธรรมชาติ
2. มาตรฐานเกษตรอินทรีย์และหน่วยตรวจรับรองเกษตรอินทรีย์
มาตรฐานเกษตรอินทรีย์นั้นมีจ านวนหลายมาตรฐานและหน่วยงานที่รับรองก็มีความ
แตกต่างกันมีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มีทั้งการรับรองระดับท้องถิ่น การรับรองระดับประเทศ และ
การรับรองระดับสากล โดยในที่นี้จะขอกล่าวถึงการรับรองในประเทศไทย โดยได้สรุปมาตรฐานเกษตร
อินทรีย์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันไว้ ดังนี้
2.1 ส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นหน่วยงานระดับ
กรมมีภารกิจหลักในการผลักดันมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าเกษตรแปรรูป และอาหาร
นอกจากนี้หน้าที่ของมกอช. ยังครอบคลุมไปถึงการก าหนดมาตรฐานและการรับรองมาตรฐานสินค้า
เกษตรและอาหารตั้งแต่ระดับไร่นาจนถึงผู้บริโภค รวมทั้งรับผิดชอบในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา
ทางการค้าเชิงเทคนิค และยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทยให้สามารถ
แข่งขันในเวทีระดับโลกโดยผู้ที่ได้รับมาตรฐาน มกอช. ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นมาตรฐาน มกษ. 9000-
2552 ส าหรับพืชจะได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์“Organic Thailand” อย่างไรก็ตาม มกอช.
ไม่ได้มีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการให้บริการตรวจสอบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ รวมทั้ง
มาตรฐานที่ มกอช. ได้ก าหนดขึ้นก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากประเทศส าคัญที่เป็นผู้น าเข้าผลิตภัณฑ์
เกษตรอินทรีย์แต่อย่างใด ทั้งนี้ในการขอรับรองมาตรฐานของมกอช. สามารถขอการรับรองได้จาก
หน่วยงานรัฐ เช่น การขอรับรองข้าวอินทรีย์จากกรมการข้าว พืชอินทรีย์จากกรมวิชาการเกษตร
ปศุสัตว์อินทรีย์จากกรมปศุสัตว์ สัตว์น ้าอินทรีย์จากกรมประมง เป็นต้น หรืออาจขอการรับรองจาก
ส านักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนก็ได้ เนื่องจาก มกท.ได้ขอรับการ
รับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์จากมกอช. เมื่อปี 2547 แล้ว แต่ทั้งนี้มีค่าใช้จ่ายในการตรวจรับรอง
มาตรฐานเกษตรอินทรีย์
2.2 หน่วยงานตรวจรับรองภาคเอกชนจากต่าง ๆ ที่เข้ามาตรวจรับรองมาตรฐานเกษตร
อินทรีย์ในประเทศไทยด้วยส าหรับการส่งออก เช่น BioAgriCert จากประเทศอิตาลี Soil
Association จากประเทศอังกฤษ BCS จากประเทศเยอรมนี IMO จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์/
เยอรมนี โดยแต่ละหน่วยงานมีกระบวนการตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของแต่ละหน่วย
ตรวจรับรองเกษตรอินทรีย์แตกต่างกันออกไป ซึ่งหน่วยตรวจรับรองจะมีเอกสารชี้แจงรายละเอียด
ขั้นตอนตรวจรับรองของตัวเองให้ผู้สนใจได้รับทราบ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการควรท าการศึกษา
ขั้นตอนเหล่านี้อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจสมัคร และควรศึกษาเปรียบเทียบหน่วยตรวจรับรอง 2-3
แห่ง เพื่อพิจารณาดูรายละเอียดของข้อก าหนดมาตรฐาน ค่าใช้จ่าย ความรวดเร็ว คุณภาพของการ
ให้บริการ ตลอดจนความน่าเชื่อถือของหน่วยงานและการยอมรับผลการตรวจรับรองของหน่วยงาน