Page 12 - การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม
P. 12
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
3
วิริยะ (2550) ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับความส าคัญของเกษตรอินทรีย์ไว้ว่า เป็นการใช้
ทรัพยากรดินโดยค านึงถึงผลเสียของปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ ก่อให้เกิดความไม่สมดุลในแร่ธาตุของดินและ
ท าให้สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ในดินนั้นสูญหายและไร้สมรรถภาพ โดยความไม่สมดุลนี้เป็นอันตรายอย่าง
ยิ่งต่อผืนดินที่สูญเสียความสามารถในการดูดซับแร่ธาตุ ท าให้ผลิตผลมีแร่ธาตุวิตามินและพลังชีวิตต่ า
เป็นผลท าให้เกิดการขาดแคลนธาตุอาหารรองของพืช พืชจะอ่อนแอขาดภูมิต้านทานโรค และท าให้
การคุกคามของแมลงเชื้อโรคเกิดขึ้นได้ง่าย จึงจะน าไปสู่การใช้สารเคมีสังเคราะห์ก าจัดวัชพืช
ข้อบกพร่องเช่นนี้ก่อให้เกิดวิกฤติห่วงโซ่อาหารและระบบการเกษตร ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพและ
สิ่งแวดล้อมอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน จากรายงานการส ารวจขององค์การอาหารและยาและการเกษตร
แห่งสหประชาชาติ พบว่า ประเทศไทยมีเนื้อที่ท าการเกษตรอันดับที่ 48 ของโลก แต่ใช้ยาฆ่าแมลง
เป็นอันดับที่ 5 ของโลก ใช้ฮอร์โมนเป็นอันดับ 4 ของโลก ประเทศไทยน าเข้าสารเคมีสังเคราะห์
ทางการเกษตร เป็นเงินสามหมื่นล้านบาทต่อปี เกษตรกรต้องมีปัจจัยการผลิตที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์
ในการเพาะปลูก ท าให้เกิดการลงทุนสูงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาผลผลิตในรอบยี่สิบปี
ไม่ได้สูงขึ้นตามสัดส่วนของต้นทุนที่สูงขึ้นนั้น มีผลให้เกษตรกรขาดทุนมีหนี้สิน การเกษตรอินทรีย์จะ
เป็นหนทางของการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เนื่องจากเกษตรอินทรีย์จะมีการบริหารจัดการผลิตทางการ
เกษตรแบบองค์รวม ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากการเกษตรแผนใหม่ที่มุ่งเน้นการเพิ่มผลผลิตชนิดใด
ชนิดหนึ่งสูงสุดโดยการพัฒนาเทคนิคต่าง ๆ โดยไม่ได้ค านึงผลกระทบต่อทรัพยากรทางสิ่งแวดล้อม
ส าหรับเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นการเกษตรแบบองค์รวมจะให้ความส าคัญกับการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศการเกษตรไปพร้อมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพื้นฟูความอุดมสม
บูรณของดิน การรักษาแหล่งน้ าให้สะอาด นอกจากนี้ สุพจน์ (2552) ได้กล่าวว่า เกษตรอินทรีย์เป็น
ระบบการผลิตที่ค านึงถึงสภาพแวดล้อมรักษาสมดุลของธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยมีระบบการจัดการนิเวศวิทยาที่คล้ายคลึงกับธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้สารสังเคราะห์ไม่ว่าจะ
เป็นปุ๋ยเคมี สารเคมีก าจัดศัตรูพืชและฮอร์โมนต่าง ๆ ตลอดจนไม่ใช้พืชหรือสัตว์ที่เกิดจากการตัดต่อ
ทางพันธุกรรมที่อาจเกิดมลพิษในสภาพแวดล้อม เน้นการใช้อินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก
ปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยชีวภาพในการปรับปรุงให้มีความอุดมสมบูรณ์เพื่อให้ต้นพืชมีความแข็งแรงต้านทาน
โรคและแมลงด้วยตนเอง รวมถึงการน าเอาภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ด้วย ผลผลิตที่ได้จะ
ปลอดภัยจากสารพิษตกค้างท าให้ปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยแนวคิดพื้นฐานของเกษตร
อินทรีย์คือ การบริหารจัดการผลิตทางการเกษตรแบบองค์รวม ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากการเกษตร
แผนใหม่ที่มุ่งเน้นการเพิ่มผลผลิตชนิดใดชนิดหนึ่งสูงสุด โดยการพัฒนาเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการให้
ธาตุอาหารพืชและปูองกันก าจัดสิ่งมีชีวิตอื่นที่อาจมีผลในการท าให้พืชที่ปลูกมีผลผลิตลดลง แนวคิด
เช่นนี้เป็นแนวคิดแบบแยกส่วน เพราะแนวคิดนี้ตั้งอยู่บนฐานการมองว่าการเพาะปลูกไม่ได้สัมพันธ์กับ
สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ดังนั้นการเลือกชนิดและวิธีการใช้ปัจจัยการผลิตต่างๆ มุ่งเฉพาะแต่การ
ประเมินประสิทธิผลต่อพืชหลักที่ปลูก โดยไม่ได้ค านึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรการเกษตรหรือนิเวศ
การเกษตร ส าหรับเกษตรอินทรีย์ซึ่งเป็นการเกษตรแบบองค์รวมจะให้ความส าคัญกับการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน
การรักษาแหล่งน้ าให้สะอาด และการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของฟาร์ม ทั้งนี้เพราะ