Page 59 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 59

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       43



                   3.6 ปริมาณการสูญเสียดินและน้ าไหลบ่า
                            ขบวนการกร่อนของดิน (soil  erosion)  เริ่มต้นจากเม็ดฝนตกลงมากระแทกพื้นผิวดิน แรง

                   กระแทกของเม็ดฝน ท่าให้อนุภาคดินแตกกระจาย มีขนาดเล็กลง ถูกพัดพาเคลื่อนย้ายไปกับน้่าไหลบ่าได้
                   ง่าย  เมื่อพื้นที่มีสภาพเป็นร่องต่่า น้่าจะไหลมารวมกันได้ มีปริมาณน้่ามากขึ้น พลังกัดเซาะดินมีมากยิ่งขึ้น
                   น้่าไหลรวมตัวกันได้มาก การกัดเซาะพัดพาอนุภาคดินจะรุนแรงขึ้นมากกลายเป็นร่องน้่าเล็ก ๆ เรียกว่า
                   ร่องริ้ว หรือริ้ว (rill) หรืออาจกัดเซาะพัดพาดินจ่านวนมากไปได้ กลายเป็นร่องน้่าลึกใหญ่ เรียกว่าร่องทาง

                   น้่า ร่องธาร (gully) เป็นอุปสรรคในการท่างาน การไถพรวน พื้นที่ปลูกพืชเสียหาย  และอาจทวีความ
                   รุนแรงยิ่งขึ้น เกิดการกัดเซาะใหญ่ลึกมากขึ้น สูญเสียพื้นที่ท่ากิน การเดินทางสัญจรไม่สะดวกไม่ปลอดภัย
                   หลังจากการกร่อน พื้นผิวดินมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป อนุภาคขนาดเล็กไหลลงไปตามช่องว่างในดิน เกิด
                   การอุดตัน (sealing)  และจับตัวแน่นเป็นแผ่นแข็ง (crusting)  ความสามารถในการให้น้่าซึมผ่านได้ลดลง

                   ความชื้นในดินน้อยลง คงเหลือแต่อนุภาคขนาดใหญ่  เช่น หิน กรวด ทราย ลอยอยู่บนผิวหน้าดิน ส่วน
                   อนุภาคขนาดเล็ก เช่น ดินเหนียว อินทรียวัตถุถูกพัดพาไปหมดแล้ว (กรมพัฒนาที่ดิน, 2543)

                                                 สมการสูญเสียดินสากล (USLE) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ประเมินการกร่อนของดิน แบบ
                   raindrop erosion และ Sheet erosion โดยไม่ครอบคลุมการกร่อนแบบ rill, gully, stream
                   และแบบอื่น ๆ

                                                  A = R K L S C P
                                                  ความหมายของค่าที่ใช้ในสมการ
                                                  A  คือ  ค่าเฉลี่ยปริมาณดินที่สูญเสีย (Soil  Loss)  ของแปลงปลูกพืชต่อหน่วยพื้นที่
                   หน่วยวัดเดิมเป็นตันต่อเอเคอร์ต่อปี ปัจจุบันใช้สมการที่แปลงหน่วยเป็นตันต่อเฮคแตร์ต่อปี

                                                  R คือ ค่าปัจจัยการกัดกร่อนของฝน (rainfall and runoff erosivity factor) เป็นค่า
                   ความสัมพันธ์ของพลังงานจลน์ของเม็ดฝนที่ตกกระทบผิวหน้าดิน กับปริมาณความหนาแน่นของฝน ในช่วง
                   ระยะเวลาหนึ่ง หน่วยวัดที่ใช้มีหลายรูปแบบ มีหลายสมการ

                                                 K คือ ค่าปัจจัยความคงทนของดิน (soil erodibility factor)
                                                 L คือ ค่าปัจจัยความยาวของความลาดเอียง (slope length factor)
                                                 S คือ ค่าปัจจัยความลาดชัน (slope steepness factor)
                                                 C คือ ค่าปัจจัยพืชและการจัดการ (crop management factor)
                                                 P คือ ค่าปัจจัยมาตรการอนุรักษ์ดินและน้่า (conservation practice factor)

                                                  ค่าของปัจจัยที่ใช้ใน USLE เป็นตัวเลขทศนิยมที่มีจ่านวนเต็มเท่ากับ 1 ยกเว้นปัจจัย
                   น้่าฝน (R) มีค่าเป็นจ่านวนหลักร้อยหรือหลักพัน ปัจจัยความยาวของความลาดเอียง (L) และปัจจัยความ
                   ลาดเท (S) ที่มีขนาดใหญ่กว่าแปลงทดลองมาตรฐาน จะมีค่ามากกว่า 1 ทั้งสามปัจจัยนี้ เป็นตัวแปรส่าคัญ

                   ที่จะเป็นสาเหตุให้การประเมินการสูญเสียดินมีค่ามากหรือน้อย ส่วนปัจจัยความคงทนของดิน (K) ปัจจัย
                   พืช (C) และปัจจัยด้านมาตรการฯ  (P) มีค่าน้อยกว่าหรือไม่เกิน 1 เสมอ
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64