Page 54 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 54

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       38



                                 (10) บ่อน้่าในไร่นา (Farm Pond) หรือบ่อขุด (Excavated Pond) คือ บ่อน้่า หรือ สระ
                   เก็บน้่าที่ขุดขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้่าฝน น้่าท่า น้่าที่ไหลออกจากดินและน้่าที่ไหลผ่านผิวดินลงในบ่อ

                   โดยขุดดินให้มีขนาดกว้างยาวและลึกตามจ่านวนน้่าที่ต้องการจะเก็บกักไว้ และน่าดินที่ขุดนั้นมาถมเป็นคัน
                   รอบสระ เพื่อท่าเป็นบ่อน้่าในไร่นา สิ่งส่าคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกพื้นที่สร้างสระน้่า เพื่อช่วยลดความ
                   เสี่ยงต่อการขุดสระแล้วไม่ได้น้่า คือ ลักษณะและสมบัติของดินที่มีผลต่อปริมาณน้่าที่จะเก็บกัก เช่น ความ
                   ลึกของดินเนื้อดิน การซึมน้่าหรือความสามารถของดินที่ให้น้่าซึมผ่าน (Permeability) ในระดับความลึก 1

                   เมตร ซึ่งมีผลต่อปริมาณการไหลซึมของน้่า และปริมาณของก้อนหินจะมีผลต่อความยากง่ายในการขุด
                                 (11) ทางล่าเลียงในไร่นา (farm road) สร้างโดยการท่าคันดินให้มีขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็น
                   ถนน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนส่งผลิตผลจากพื้นที่เกษตรสู่ตลาด ใช้เป็นถนนให้เครื่องจักรกลเข้า
                   ท่างานในพื้นที่เพาะปลูกเหมาะกับพื้นที่ที่มีความลาดเท 2 - 12 เปอร์เซ็นต์

                              2) มาตรการอนุรักษ์ดินและน้่าโดยวิธีพืช (Vegetative  Measures) คือ วิธีการอนุรักษ์ดิน
                   และน้่า โดยการปลูกพืชหรือใช้ส่วนใด ๆ ของพืชท่าให้เป็นแถบหรือเป็นแนวหรือปกคลุมผิวดินหรืออื่น ๆ
                   เพื่อป้องกันเม็ดฝนมิให้กระทบผิวดินโดยตรง และลดการชะล้างผิวหน้าดินเพิ่มอินทรียวัตถุในดินและ
                   ปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพ ช่วยควบคุมวัชพืชและช่วยปรับสภาพแวดล้อมบริเวณที่ปลูกพืชให้

                   เหมาะสม
                                 (1) การปลูกพืชคลุมดิน (Cover Crop) เป็นการปลูกหญ้าแฝกหรือพืชตระกูลถั่ว ใช้พืชที่
                   มีรากมากรากลึกใบแผ่แน่นและโตเร็ว ซึ่งเมื่อปลูกแล้วจะช่วยปกคลุมผิวหน้าดิน ป้องกันเม็ดฝนมิให้ตก

                   กระทบผิวดินโดยตรงและลดการชะล้างผิวหน้าดิน เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดินและปรับปรุงคุณสมบัติทาง
                   กายภาพของดินและควบคุมวัชพืช รวมทั้งช่วยปรับปรุงบ่ารุงดินและช่วยรักษาความชื้นได้ดีขึ้นอีกด้วย
                   เหมาะส่าหรับปลูกคลุมดินในสวนไม้ผล และเหมาะส่าหรับปลูกบนพื้นที่ที่มีความลาดชันสูงเกิน  20
                   เปอร์เซ็นต์
                                 (2)  การคลุมดิน (Mulching)  หมายถึง การคลุมดินด้วยวัตถุต่าง ๆ เช่น กระดาษพลาสติก

                   เศษเหลือของพืชเป็นต้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ดินและน้่า การคลุมดินส่วนใหญ่นิยมกระท่า เพื่อรักษา
                   ความชื้นในดินโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง และการคลุมดินยังมีประโยชน์ช่วยลดปริมาณวัชพืชด้วย
                   นอกจากนี้ยังช่วยให้อุณหภูมิของดินไม่แตกต่างกันมาก เพื่อป้องกันการพังทลายที่เกิดจากเม็ดฝนที่ตกลง

                   มา หรือที่เกิดจากน้่าไหลบ่าบนผิวดิน หรือที่เกิดจากลม อัตราการใช้วัตถุคลุมดิน ที่นิยมโดยทั่วไป คือ 600
                   – 800 กิโลกรัมต่อไร่ ส่าหรับเศษเหลือของพืช 1.6 - 2.0 ตันต่อไร่
                                 (3) การปลูกพืชสลับ (Strip Cropping) เป็นการปลูกพืชสลับเป็นแถบเป็นการปลูกพืชที่
                   มีระบบปลูกชิดและห่างเป็นแถบสลับกันขวางความลาดเทของพื้นที่ตามแนวระดับหรือไม่เป็นไปตามแนว

                   ระดับ การปลูกพืชเป็นแถบสลับ คือเมื่อฝนตกลงมาบนพื้นที่ที่มีความลาดเทก็จะเกิดน้่าไหลบ่า บนผิวดิน
                   ที่ไม่ได้คุ้มกันดินอัตราการไหลของน้่าที่ไหลบ่าจะเป็นไปตามธรรมชาติแต่เมื่อน้่าที่ไหลบ่ามาถึงแถบที่ปลูก
                   พืชคุ้มกันดินจะท่าให้อัตราการไหลของน้่าที่ผิวดินลดลงการปลูกพืชสลับเป็นการลดอัตราการเกิด sheet
                   erosion และการป้องกันการเกิดการพังทลายที่เป็นร่องน้่าขนาดใหญ่ใช้ในพื้นที่ที่มีความลาดเท ไม่เกิน 15
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59