Page 64 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 64

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       48



                   ประจ่าไร่นา เพื่อเก็บกักน้่าส่วนเกินไว้ใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง และวิธีทางพืช ได้แก่ ปลูกพืชเป็นแถบตาม
                   แนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ ปลูกแถบหญ้าแฝกตามแนวระดับ ปลูกพืชตระกูลถั่วสลับกับแถวพืช

                   หลักตามแนวระดับ
                              2) พัฒนาแหล่งน้่าและรักษาความชุ่มชื้นในดิน เนื่องจากพบบริเวณที่ดินไม่มีระบบ
                   ชลประทานเข้าถึง จ่าเป็นต้องพัฒนาแหล่งน้่า โดยการขุดบ่อน้่าประจ่าไร่นา หรือขุดลอกแหล่งน้่าเก่าที่ตื้น
                   เขิน นอกจากการพัฒนาแหล่งน้่าแล้วจะต้องมีวิธีการรักษาความชื้นในดิน โดยใช้วัสดุคลุมดินระหว่างแถว

                   พืช และปลูกพืชคลุมดินระหว่างแถวไม้ผล
                              3) ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยการจัดระบบการปลูกพืชบ่ารุงดิน ได้แก่ ปลูกพืช
                   หมุนเวียน โดยปลูกพืชตระกูลถั่วสลับกับพืชหลัก และปลูกพืชตระกูลถั่วแซมระหว่างแถวพืชอื่น หรือปลูก
                   แบบเหลื่อมฤดู การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก นอกจากนี้ควรท่าปุ๋ยพืชสดในบาง

                   ปี ส่าหรับการท่าปุ๋ยพืชสดนั้นเริ่มจากการปลูกพืชตระกูลถั่วในพื้นที่ก่อนปลูกพืชหลัก ประมาณ 2 เดือน
                   เมื่อพืชตระกูลถั่วออกดอกก็พรวนกลบเพื่อบ่ารุงดิน
                              การไถพรวนเป็นการเพิ่มการชะล้างพังทลายของดิน แต่หากปฏิบัติให้ถูกวิธีและเหมาะสมจะ
                   ช่วยลดการชะล้างพังทลายของดิน วิธีการปลูกพืชก็มีผลต่อการชะล้างพังทลายของดินเช่นกัน ขึ้นอยู่กับ

                   ชนิดของพืชที่ปลูก จ่านวนพืชต่อเนื้อที่ ระยะระหว่างต้นและระหว่างแถว และทิศทางของแถวกับความ
                   ลาดเท ซึ่งถ้ามีพืชหนาแน่นและปลูกตามแนวระดับหรือขั้นบันได จะช่วยลดการชะล้างพังทลายของดินเป็น
                   อย่างมาก (ส่านักงานพัฒนาที่ดินเขต 7, 2561) นอกจากนี้ สุนีย์รัตน์ (2557) ศึกษาผลของการไถพรวนใน

                   ระบบปลูกพืชเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้่าที่มีต่อการสูญเสียดินบนพื้นที่ดอน ชุดดินหนองมด (Nm) กลุ่มชุด
                   ดินที่ 29 อ่าเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย พบว่า การปลูกข้าวโพดโดยไม่ไถพรวนดินร่วมกับระบบ
                   อนุรักษ์ดินและน้่าและแถบหญ้าแฝก เป็นวิธีการที่ดีที่สุด เนื่องจากให้ผลผลิตไม่แตกต่างจากวิธีการอื่น ลด
                   ต้นทุนในการไถเตรียมพื้นที่มีปริมาณการสูญเสียดินน้อยที่สุด วิธีการนี้จึงเหมาะสมในการแก้ปัญหาการชะ
                   ล้างพังทลายของดินบนพื้นที่ความลาดชันสูงได้  แม้ว่าการไถพรวนดินจะก่อให้เกิดผลดีแก่การปลูกพืช แต่

                   มีผลเสียต่อระบบการเกษตรโดยเฉพาะท่าให้สมบัติดินทั้งทางกายภาพและเคมีของดินเปลี่ยนแปลงไป  ใน
                   พื้นที่ที่มีความลาดเทหากมีการไถพรวนขึ้นลงตามความลาดเท จะท่าให้เกิดการกัดกร่อนของดินอันเกิด
                   จากน้่าไหลบ่าช่วงฤดูฝน  ส่าหรบในฤดูแล้งผิวดินจะถูกกัดกร่อนด้วยแรงลม  (ส่านักนิเทศและถ่ายทอด

                   เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน, 2550)

                            3.7.2 การปรับปรุงบ่ารุงดิน
                              การจัดท่าระบบอนุรักษ์ดินและน้่าโดยมาตรวิธีกล โดยการขุดถมดินในท่าให้หน้าดินที่ใช้
                   เพาะปลูกถูกเคลื่อนย้าย ท่าให้โครงสร้างดินถูกท่าลาย ดินจึงไม่เหมาะสมส่าหรับปลูกพืช ดังนั้นก่อน
                   เพาะปลูกจ่าเป็นต้องมีการปรับปรุงบ่ารุงดิน เช่นเดียวกับการปลูกพืชซ้่าในดินเดิมอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มี

                   การปรับปรุงบ่ารุงดิน จะท่าให้ดินสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ไปอย่างรวดเร็ว ดินแข็ง ไม่ร่วนซุย ดูดซับน้่า
                   และธาตุอาหารได้น้อยลง และที่ส่าคัญคือจะท่าให้การใช้ปุ๋ยเคมีไม่ได้รับผลดีเท่าที่ควร การใช้ปุ๋ยเคมีที่
                   ได้ผลจะต้องใช้ควบคู่ไปกับการปรับปรุงบ่ารุงดิน หากใช้ปุ๋ยเคมีแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการปรับปรุง
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69