Page 49 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 49

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       33



                            ผลกระทบจากการชะล้างพังทลายของดินจะก่อให้เกิดความสูญเสียดังนี้ (กรมพัฒนาที่ดิน,
                   2558)

                            1)  ท่าให้โครงสร้างของดินถูกท่าลาย เมื่อเม็ดฝนตกกระทบผิวดิน พลังงานในเม็ดฝนจะก่อให้เกิด
                   แรงตกกระแทก ท่าให้อนุภาคของดินที่ผิวหน้าดินแตกกระจาย และกระเด็นออกไปจากพื้นที่ ส่วนดินที่อยู่
                   ใต้ผิวดินลงไปเล็กน้อยจะได้รับแรงกระแทก ท่าให้เนื้อดินแน่นทึบ ปริมาณน้่าจะซึมผ่านชั้นดินได้น้อย
                            2) ท่าให้เกิดการสูญเสียหน้าดิน เกิดขึ้นจากเม็ดฝนที่ตกกระทบผิวดิน ท่าให้อนุภาคของดินที่จับ

                   ตัวเป็นก้อนแตกกระจายเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ที่มีน้่าหนักเบา เมื่อไม่สามารถซึมลงผ่านชั้นดินได้จึงสะสมเป็น
                   น้่าไหลบ่าหน้าดิน พัดพาเอาอนุภาคที่แตกกระจายเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งการเคลื่อนย้าย
                   ดินออกจากพื้นที่นี้จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อพื้นที่ดินเดิม
                            3) การสูญเสียธาตุอาหารในดินและท่าให้ผลผลิตลดลง การชะล้างพังทลายโดยน้่าเป็น

                   กระบวนการหนึ่งที่ท่าให้ดินเสื่อมโทรม เนื่องจากมีการพัดพาดินชั้นบนซึ่งมีปริมาณอินทรียวัตถุที่จ่าเป็นต่อ
                   การเจริญเติบโตของพืชออกไปจากพื้นที่เดิม นอกจากนี้ยังมีผลท่าให้การซึมน้่าและ การอุ้มน้่าของดิน
                   ลดลงด้วย จึงเป็นสาเหตุให้ผลผลิตของพืชในพื้นที่นั้น ๆ ลดลงตามไปด้วย
                            4) ท่าให้ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป การชะล้างพังทลายของดินเกิดขึ้นจาก

                   ผิวดินได้รับน้่ามากเกินความสามารถในการซึมน้่าของดิน จนเกิดน้่าไหลบ่าและพัดพาเอาอนุภาคของดิน
                   ออกไปจากพื้นที่เดิม ท่าให้ผิวดินเกิดเป็นร่องขนาดเล็กหรือใหญ่แตกต่างกันตามความรุนแรงของกระแสน้่า
                   และเมื่อพื้นที่ในบริเวณนั้น ๆ ได้รับอิทธิพลของการชะล้างมากขึ้น มีผลท่าให้พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวเกิด

                   การกัดเซาะเป็นร่องลึกขนาดใหญ่ (gully erosion) ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการน่าเครื่องจักรกลเข้าไปใช้ในงาน
                   ในพื้นที่การเกษตร และการปรับระดับพื้นที่เพื่อการเพื่อปลูกพืชก็ท่าได้ยากเช่นกัน ท่าให้แม่น้่าล่าธารหรือ
                   แหล่งน้่าตื้นเขิน เมื่อผิวหน้าดินได้รับอิทธิพลจากเม็ดฝนและน้่าไหลบ่า ซึ่งจะพัดพาเอาอนุภาคดินไปตาม
                   ความรุนแรงของกระแสน้่าไหลลงสู่แหล่งน้่าต่าง ๆ และเมื่อความเร็วของกระแสน้่าลดลง จะท่าให้เกิดการ
                   ตกตะกอนตามแหล่งน้่าเช่น บริเวณปากแม่น้่า บริเวณที่แม่น้่าสองสายมาบรรจบกัน ท่าให้พื้นที่บริเวณ

                   ดังกล่าวเกิดเป็นดินดอน ล่าน้่าตื้นเขิน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขุดลอกเป็นจ่านวนมาก (สมชาย, 2530)

                   3.5 การอนุรักษ์ดินและน้ า

                            กรมพัฒนาที่ดิน ได้ก่าหนดมาตรการอนุรักษ์ดินและน้่าไว้ในพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน  พ.ศ.
                   2551   การอนุรักษ์ดินและน้่า หมายความว่า การกระท่าใด ๆ ที่มุ่งให้เกิดการระวังป้องกันรักษาดินและ
                   ที่ดิน ไม่ให้เกิดความเสื่อมโทรม สูญเสีย รวมถึงการรักษาปรับปรุง ความอุดมสมบูรณ์ของดิน และการ
                   รักษาน้่าดินหรือผิวดินให้คงอยู่ เพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติให้เหมาะสมในการใช้ประโยชน์ที่ดินในทาง

                   เกษตรกรรม การอนุรักษ์ดิน (soil conservation) หมายถึง การปฏิบัติต่อดินด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม เพื่อ
                   จุดมุ่งหมายที่จะรักษาดิน ให้มีความสามารถในการให้ผลผลิตสูงสุด และได้นานที่สุดเป็นการใช้ที่ดินอย่าง
                   ถูกวิธี และบ่ารุงรักษาให้ใช้ได้นาน ๆ โดยมิให้เกิดการชะล้างพังทลายของดิน การอนุรักษ์น้่า  (Water
                   conservation) หมายถึง การป้องกันปัญหาที่พึงจะเกิดขึ้นกับน้่า และการน่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

                   ในการด่ารงชีวิตของมนุษย์ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การปลูกป่า การพัฒนาแหล่งน้่า การใช้น้่าอย่างประหยัด
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54