Page 52 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 52

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       36



                   2544) การเลือกใช้มาตรการใด ควรพิจารณาลักษณะดิน ภูมิประเทศ ปริมาณน้่าฝน ตลอดจนการใช้
                   ประโยชน์ที่ดิน โดยเลือกวิธีการผสมผสานมาตรการให้เหมาะสมเพื่อให้การท่าการเกษตรเกิดความยั่งยืน

                   และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่
                              1) มาตรการอนุรักษ์ดินและน้่าโดยวิธีกล (Mechanical Measures) คือ การปรับสภาพของ
                   พื้นที่เพื่อลดความยาวและความเทของพื้นที่ เป็นการลดความสามารถในการเคลื่อนย้ายตะกอนดิน โดย
                   การสร้างสิ่งกีดขวางความลาดเทของพื้นที่และทิศทางการไหลของน้่า เพื่อช่วยควบคุมน้่าไหลบ่า ลดและ

                   ชะลอความเร็วของกระแสน้่า (กรมพัฒนาที่ดิน, 2553) ซึ่งมาตรการวิธีกลมีหลายวิธี ดังนี้
                                 (1) การไถพรวนตามแนวระดับ (Contour tillage) เป็นการไถพรวนดินขวางความลาดเท
                   ของพื้นที่ โดยแนวของการไถพรวนตามแนวระดับเพื่อป้องกันดินถูกกัดเซาะ ไถพรวนขณะที่ดินมีความชื้น
                   เหมาะสมไม่แห้งหรือแฉะจนเกินไป เพื่อป้องกันการอัดแน่นของดิน ควรปฏิบัติบนพื้นที่ที่มีความลาดเท 2 -

                   8 เปอร์เซ็นต์ และความยาวของความลาดเทไม่เกิน 100 เมตร ในพื้นที่ที่มีความแห้งแล้ง
                                 (2) คันดินกั้นน้่า (Terrace) สร้างคันดินขวางความลาดเทของพื้นที่ โดยพื้นที่จะถูกแบ่ง
                   ออกเป็นช่วง ๆ เพื่อเก็บกักน้่าไหลบ่า ในแต่ละช่วงหรือเบนน้่าไหลบ่าออกไปจากพื้นที่ ใช้กับพื้นที่ที่มีความ
                   ลาดเท 2 - 12 เปอร์เซ็นต์ คันดินแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ

                                    -  คันดินฐานกว้าง (broad  based  terrace)  คันดินฐานกว้างเป็นคันดินที่มีลาด
                   ด้านหน้าและลาดด้านหลังน้อย เพื่อให้เครื่องจักรกลท่างานได้ความกว้างของคันดินประมาณ 4 เมตร มีทั้ง
                   แบบระดับซึ่งใช้กับดินซึมน้่าเร็วแต่แบบลดระดับใช้กับดินซึมน้่าช้า โดยลดระดับตั้งแต่ 0.1 - 0.6

                   เปอร์เซ็นต์ เป็นการลดความยาวของความลาดเทของพื้นที่ เพื่อควบคุมอัตราการชะล้างพังทลายของดิน
                   ช่วยเพิ่มความชื้นในดิน ช่วยให้การท่าเขตกรรมได้สะดวก ใช้ส่าหรับพื้นที่ที่มีความลาดเทไม่เกิน 8
                   เปอร์เซ็นต์ ควรใช้กับพื้นที่ที่มีเนื้อดินเป็นดิน ร่วนปนทราย
                                    -  คันดินฐานแคบ (narrow  based  terrace)  คันดินฐานแคบเป็นคันดินที่มีลาด
                   ด้านหน้าและลาดด้านหลังมาก เครื่องจักรกลขึ้นท่างานยาก ความกว้างของคันดินประมาณ 1 - 2 เมตร มี

                   ทั้งแบบระดับ และแบบลดระดับ เป็นการลดความยาวของความลาดเทของพื้นที่ เพื่อควบคุมการชะล้าง
                   พังทลายของดิน ใช้ในพื้นที่ที่มีความลาดเท 2 - 12 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนต่่ากว่าคันดินฐานกว้าง
                                 (3) คันดินเบนน้่า (Diversion terrace) เป็นคันดินขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นขวางความ ลาด

                   เทของพื้นที่และในกรณีที่คันดินธรรมดาไม่สามารถควบคุมน้่าในพื้นที่ได้ จ่าเป็นต้องใช้คันดินขนาดใหญ่
                   เพื่อเบนน้่าส่วนใหญ่ออกจากพื้นที่ ไปยังร่องน้่าหรือทางน้่าธรรมชาติ ช่วยป้องกันพื้นที่ตอนล่างจากการ
                   ไหลบ่าของน้่า โดยมีการลดระดับเพื่อเบนน้่าที่ไหลบ่าลงมาจากพื้นที่ด้านบนไปยังทางระบายน้่าเป็นคันดิน
                   ขนาดใหญ่ก่อสร้างตอนบนสุดของพื้นที่ ต้องมีการค่านวณออกแบบอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันความเสียหาย

                   ที่เกิดกับคันดินส่วนกลาง
                                 (4) ขั้นบันไดดิน (Bench terrace)  ขั้นบันไดดินเป็นการปรับพื้นที่เป็นขั้น ๆ ต่อเนื่องกัน
                   คล้ายบันไดเพื่อลดความยาวและระดับของความลาดชัน ลดการไหลบ่าของน้่า ควบคุมการชะล้างพังทลาย
                   ของดิน ช่วยให้ไถพรวนได้สะดวก เหมาะสมกับพื้นที่ดินลึก การท่าขั้นบันไดดิน มีค่าใช้จ่ายสูงจึงควรใช้กับ

                   พื้นที่ที่ดินดี หน้าดินลึกและควรใช้ร่วมกับมาตรการอนุรักษ์ดินและน้่า วิธีอื่น ๆ จึงจะคุ้มค่า กรณีพื้นที่ดินดี
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57