Page 46 - การศึกษาธาตุอาหารในปุ๋ยหมักที่ผลิตจากกากตะกอนน้ำเสีย เทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
P. 46
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
39
การระบายอากาศ ถ้าวัสดุมีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อกองปุ๋ยไปแล้วระยะหนึ่งกองปุ๋ยจะมีลักษณะ
ค่อนข้างทึบ หรือเมื่อหมักเศษพืชไประยะหนึ่งแล้วเห็นว่าเศษพืชอัดตัวกันแน่นมากขึ้น เกรงว่าการระบาย
อากาศภายในกองปุ๋ยไม่เพียงพอ ก็อาจช่วยระบายอากาศในกองปุ๋ยได้โดยวิธีง่ายๆ คือ เมื่อเริ่มตั้งกองปุ๋ย
ใหม่หลังจากการกลับกอง ก็หาไม้ไผ่หรือท่อพีวีซีมาหลายๆ ล า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-6 นิ้ว
มาปักตั้งไว้บนพื้นดินที่จะตั้งกองปุ๋ยโดยกะว่าเมื่อตั้งกองไปแล้ว ล าไผ่จะกระจายอยู่ทั่วๆ กอง แล้วจึงท า
การตั้งกองปุ๋ย เมื่อตั้งกองปุ๋ยเรียบร้อยแล้วก็ถอนล าไผ่ออก กองปุ๋ยก็จะมีช่องระบายอากาศตามที่ต้องการ
ก่อนถอนล าไม้ไผ่ควรโยกไม้ไปมารอบๆ จะท าให้ช่องระบายอากาศคงรูปได้ดีขึ้น ไม่ยุบตัว ควรท าช่อง
ระบายอากาศเช่นนี้ทุกครั้งที่มีการกลับกองปุ๋ย
การกลับกองปุ๋ย หลังจากตั้งกองปุ๋ยไประยะหนึ่งแล้ว ควรกลับกองปุ๋ยโดยการคุ้ยกองลงมาทั้งหมด
เกลี่ยผสมคลุกเคล้ากัน แล้วน าวัสดุทั้งหมดกลับตั้งเป็นกองใหม่ในรูปทรงเดิม โดยพยายามกลับเอาเศษพืช
ที่เคยอยู่ด้านนอกของกองให้กลับเข้าไปอยู่ด้านในกอง การกลับกองปุ๋ยจะท าให้สภาพของกองปุ๋ยโปร่งขึ้น
การระบายอากาศดีขึ้น รวมทั้งเป็นการหมุนเวียนเอาวัสดุด้านนอกของกองที่ยังไม่สลายตัวให้เข้าไปรับ
ความร้อนภายในกอง และช่วยก าจัดหนอน ตัวอ่อนของแมลงวันที่อาจเกิดขึ้นบริเวณขอบนอกของกอง
ขณะเดียวกันก็เป็นการผสมคลุกเคล้าวัสดุให้เข้ากัน มีความชื้นสม่ าเสมอทั้งกอง การกลับกองมี
ความส าคัญมากต่อการแปรสภาพของกองปุ๋ย ยิ่งสามารถกลับกองได้บ่อยครั้งจะยิ่งช่วยให้เศษพืชแปร
สภาพไปเป็นปุ๋ยหมักได้เร็วขึ้น เช่น การกลับกองทุกๆ 3-5 วัน หรือทุกสัปดาห์ จะท าให้เศษซากพืช
สลายตัวได้รวดเร็ว แต่การกลับกองเป็นขั้นตอนที่สิ้นเปลืองแรงงานอย่างมาก ถ้าไม่มีความจ าเป็นต้องรีบใช้
ปุ๋ยหมัก ก็สามารถลดจ านวนครั้งในการกลับกองปุ๋ยลงได้ตามเวลา หรือแรงงานที่มีอยู่ แต่อย่างน้อยที่สุดก็
ควรจะมีการกลับกองประมาณ 3-4 ครั้ง คือ กลับกองครั้งแรกประมาณ 10 วัน หลังจากเริ่มตั้งกองปุ๋ย ครั้ง
ที่สองประมาณ 15 วัน หลังจากกลับกองครั้งแรก จากนั้นก็อาจกลับกองทุกๆ 20 วันจนสามารถน าไปใช้ได้
ความชื้นของกองปุ๋ยหมัก จุลินทรีย์ที่ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ให้กลายเป็นปุ๋ยนั้นต้องอาศัยน้ าหรือ
ความชื้นในการด ารงชีพ วัสดุที่น ามากองจึงต้องเปียกชื้น การรดน้ าต้องระมัดระวังพอสมควร คือ รดน้ าแค่
พอให้เศษพืชในกองเปียกชื้นพอสมควร ไม่ให้แฉะ ส่วนใหญ่แล้วเศษพืชไม่ค่อยดูดซับน้ า จึงอาจต้องรดน้ า
ให้มากเป็นพิเศษในวันแรก จากนั้นก็เพียงคอยตรวจตราเป็นระยะๆ ดูแลให้กองปุ๋ยชื้นอยู่เสมอ ความชื้นที่
พอดีของกองปุ๋ยอยู่ในช่วงร้อยละ 40 – 60 โดยน้ าหนัก ประมาณคร่าวๆ ได้โดยวิธีใช้มือหยิบเอาเศษพืชใน
กองออกมา แล้วก าบีบให้แน่น ถ้ามีน้ าไหลซึมออกมากตามซอกนิ้วไหลเป็นทาง แสดงว่ากองปุ๋ยหมักแฉะ
เกินไป ไม่ควรรดน้ า แต่ควรท าการกลับกองปุ๋ยบ่อยขึ้น ถ้าบีบแล้วน้ าซึมออกมาตามซอกนิ้ว แต่ไม่ถึงกับ
ไหลเป็นทางแสดงว่าความชื้นพอดีแล้ว แต่เมื่อบีบแล้วไม่มีน้ าซึมออกมาเลย แสดงว่าเศษพืชนั้นแห้งเกินไป
ต้องรดน้ าเพิ่มเติม
อุณหภูมิ หลังจากกองปุ๋ยหมักแล้วประมาณ 2-4 วัน อุณหภูมิภายในจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนถึง 50-60 องศาเซลเซียส เนื่องจากพลังงานความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากกระบวนการย่อย
สลาย และคุณสมบัติการเก็บความร้อนของวัสดุที่เป็นสารอินทรีย์ท าให้ความร้อนที่เกิดขึ้นไม่ค่อย
แพร่กระจายออกจากกองปุ๋ยหมัก การที่อุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักเพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว ท าให้สภาพแวดล้อมใน
กองปุ๋ยเปลี่ยนแปลงไป ชนิดของจุลินทรีย์ที่มีอยู่ก็เปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน ในขณะที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น
เรื่อยๆ พบว่า จุลินทรีย์ที่มีบทบาทส าคัญได้แก่ พวกที่ทนต่ออุณหภูมิสูง และพวกที่ชอบอุณหภูมิสูง
หลังจากที่อุณหภูมิสูงสุดแล้วจะค่อยๆ ลดลง จนถึงที่ระดับจุลินทรีย์พวกที่ชอบอุณหภูมิปานกลางสามารถ
เจริญเติบโตและเพิ่มจ านวนมากขึ้น ระดับของอุณหภูมิในกองปุ๋ยจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่