Page 20 - ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document)
P. 20

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       2-6





                                3) ทันต่อเวลา (Timely)  ระบบสารสนเทศต้องผลิตสารสนเทศให้ทันต่อเหตุการณ์ มีระยะ
                  เวลาการรอคอยไม่นาน
                                4) คุ้มราคา (Economical) ระบบสารสนเทศที่น ามาใช้งานต้องให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการ

                  ลงทุน
                                5) ตรวจสอบได้ (Verifiable)  ระบบสารสนเทศต้องสามารถตรวจสอบผลลัพธ์จากการประมวลผล
                  ได้ว่าผลลัพธ์นั้นหามาได้อย่างไร
                                6) ยืดหยุ่น (Flexible) ระบบสารสนเทศต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน
                  ได้ เช่น เมื่อมีการเปลี่ยนกฎหมายให้เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ระบบสารสนเทศต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องตรง

                  ตามกฎหมาย หรือสามารถขยายขีดความสามารถให้รองรับการท างานของผู้ใช้หลายคนได้
                                7) สอดคล้องกับความต้องการ (Relevant)  ระบบสารสนเทศต้องผลิตสารสนเทศที่มีความ
                  เกี่ยวข้องกับการท างาน สามารถน าไปใช้ในการตัดสินใจได้

                                8) สะดวกในการเข้าถึง (Accessible)  ระบบสารสนเทศต้องอ านวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถ
                  เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
                                9) ปลอดภัย (Secure) ระบบสารสนเทศต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการ
                  เข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือมีแผนการส ารองข้อมูลและกู้คืนข้อมูลที่อาจเกิดความเสียหายจากการใช้

                  งานได้ (กนิษฐา  กาฬภักดี, 2556)

                  2.4 ฐานข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล

                         โอภาส  เอี่ยมสิริวงศ์ (2557) กล่าวว่า ฐานข้อมูลมีบทบาทส าคัญต่อวงการทั่วไปอย่างมาก ดังจะเห็น
                  จากทุกๆ ที่มีคอมพิวเตอร์ใช้งานเพื่อการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์เพื่องานธุรกิจ
                  การศึกษา การแพทย์ วิทยาศาสตร์ และงานด้านวิศวกรรม  ก็ล้วนแต่ข้องเกี่ยวกับฐานข้อมูลแทบทั้งสิ้น  ดังนั้น

                  จึงอาจกล่าวได้ว่าอัตราการเติบโตของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเทคโนโลยีฐานข้อมูล
                  จึงส่งผลให้แต่ละองค์กรต่างจ าเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเข้าถึงฐานข้อมูลที่ตนต้องการ ซึ่งใช่ว่าจะเป็น
                  เพียงฐานข้อมูลในระดับภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาเป็นฐานข้อมูลทั้งภายในและภายนอกมาอยู่
                  รวมกันเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่มหึมาที่เรียกว่าคลังข้อมูล นอกจากนี้ ฐานข้อมูลยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบ

                  สารสนเทศในขณะที่ระบบสารสนเทศ ก็ได้ถูกบูรณาการเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกันกับกระบวนการทางธุรกิจไป
                  แล้ว
                         2.4.1  แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการแฟ้มข้อมูล
                               แนวคิดการจัดการข้อมูลได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตกาล  แล้วก็ได้รับการพัฒนาตามเทคโนโลยีใน

                  แต่ละยุคสมัย  การจัดการข้อมูลได้ริเริ่มมาจากการบันทึกข้อมูลลงในสมุดบันทึก ซึ่งไม่มีรูปแบบการบันทึก
                  ข้อมูลที่แน่นอน ต่อมาเมื่อปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้น จึงได้พัฒนารูปแบบการจัดเก็บข้อมูลให้มีระบบระเบียบ  มี
                  มาตรฐานด้วยการบันทึกข้อมูลลงในเอกสาร  มีการจัดเก็บแฟ้มเอกสารแยกประเภทตามหมวดหมู่  มีการจัดท า
                  สารบัญและดัชนีเพื่อให้การค้นหาข้อมูลมีความรวดเร็วขึ้น และเพื่อให้แฟ้มเอกสารเหล่านี้ มีความปลอดภัยมาก

                  ขึ้นก็จะน าไปเก็บไว้ที่ตู้เก็บเอกสาร ซึ่งวิธีดังกล่าว ก็ยังคงถูกน ามาใช้จนถึงปัจจุบัน  แต่หากมีปริมาณข้อมูลเพิ่ม
                  มากขึ้น ย่อมท าให้เอกสารต่างๆ ทวีมากขึ้นตามมาด้วย  ตู้เก็บเอกสารก็ต้องมีมากขึ้น  จึงท าให้ต้องสิ้นเปลือง
                  ค่าใช้จ่ายและพื้นที่ที่ใช้ส าหรับวางตู้เอกสารเหล่านั้น  ประกอบกับการค้นหาข้อมูลย่อมเกิดปัญหาความล่าช้า

                  ตามมา  อันเนื่องมาจากมีตู้เก็บเอกสาร และเอกสารจ านวนมากนั่นเอง
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25