Page 21 - ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ต่อการปลูกคะน้าในชุดดินบางกอก
P. 21
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
11
ประกอบด้วยธาตุรอง โดยเฉพาะธาตุแคลเซียม (Ca) ท าให้ต้นพืชแข็งแรง ต้านทานต่อการเข้าท าลายของ
โรคพืช และมีจุลินทรีย์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเปลี่ยนธาตุอาหารให้อยู่ในรูปที่พืชใช้ประโยชน์ได้
ประกอบด้วย จุลินทรีย์เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลายเซลลูโลสของพืช จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายโปรตีน
ไขมัน และฟอสเฟต ลดการสูญเสียไนโตรเจนและลดกลิ่นแอมโมเนีย และจุลินทรีย์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การปลดปล่อยฟอสฟอรัสจากวัตถุดิบที่ใช้ท าปุ๋ยหมัก เช่น หินฟอสเฟต และกระดูกป่น (กรมพัฒนาที่ดิน, 2551ข)
ประโยชน์ของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงมีธาตุอาหารสูง เป็นแหล่งธาตุอาหาร
รองและจุลธาตุแก่พืช มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อดินและพืชมีการปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่พืช
อย่างช้าๆ ท าให้ลดการสูญเสียธาตุอาหารจึงเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรในการลดหรือทดแทนการใช้
ปุ๋ยเคมีและเกษตรกรสามารถผลิตใช้เองได้ จึงท าให้ลดต้นทุนในการผลิต การผลิตปุ๋ยอินทรีย์
คุณภาพสูง สูตรกรมพัฒนาที่ดินมีปริมาณธาตุอาหารหลักแต่ละชนิด ได้แก่สูตรไนโตรเจนสูง และสูตร
ฟอสฟอรัสสูง จะท าให้มีการใส่ปุ๋ยได้ตรงตามความต้องการของพืช ซึ่งจะท าให้เกษตรกรประหยัดการ
ใช้ปุ๋ย ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตพืช
กรมพัฒนาที่ดินได้สรุปชนิดและอัตราส่วนของวัตถุดิบที่เหมาะสม
เพื่อน ามาผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ดังนี้ กากถั่วเหลือง ร าข้าว มูลสัตว์ หินฟอสเฟต กระดูกป่น และ
มูลค้างคาว โดยใช้อัตราส่วนของวัตถุดิบในแต่ละชนิดสามารถก าหนดสูตรปุ๋ยได้ 5 สูตร โดยมีปริมาณ
ไนโตรเจน 3 - 4 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัส 5 - 9 เปอร์เซ็นต์ และโพแทสเซียม 1-2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง
เกษตรกรหรือผู้ผลิตสามารถเลือกผลิตได้ตามปริมาณและชนิดของวัตถุดิบที่มีในพื้นที่ (กรมพัฒนา
ที่ดิน, 2558ข)
3.2.2 ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยปรับปรุงสมบัติดิน ดังนี้
1) สมบัติทางกายภาพ อินทรียวัตถุในปุ๋ยอินทรีย์ ช่วยเพิ่มความสามารถในการ
อุ้มน้ า และมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคที่พอเหมาะ ซึ่ง Gosling et al. (2005) รายงานว่าการเพิ่ม
อินทรียวัตถุลงในดินในรูป ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ และปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ท าให้สมบัติทางด้าน
กายภาพของดินดีขึ้น เนื่องจากอินทรียวัตถุช่วยยึดจับอนุภาคดินให้จับตัวกันเป็นก้อน (aggregation)
ท าให้สมบัติทางกายภาพของดิน เช่น โครงสร้างของดิน (soil structure) ความหนาแน่น (bulk
density) ความสามารถในการอุ้มน้ า (water holding capacity) การระบายน้ า และความพรุน
(porosity) และการซึมผ่านของน้ าลงไปในดิน (permeability) ของดินดีขึ้น สอดคล้องกับการทดลอง
ของ ปิโยรส (2547) ศึกษาผลของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีต่อผลผลิตคะน้า (Brassisa oleracea L.)
พันธุ์อาร์เอส 1 และสมบัติบางประการของดิน พบว่า การใช้ปุ๋ยอินทรีย์มีผลท าให้ความหนาแน่นรวม
ของดินลดลง และความพรุนรวมของดินเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดเป็นด่าง
ของดิน ค่าการน าไฟฟ้าของดิน ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน และปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดในดินและ
การใช้ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 250 และ 1,000 กรัม ต่อตารางเมตร ท าให้ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์