Page 14 - คู่มือแนวทางการบริหารจัดการเขตเหมาะสมของที่ดินสำหรับพืชเศรษฐกิจ
P. 14
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
3-4
1.4) ความเป็นประโยชน์ของออกซิเจนต่อรากพืช (oxygen availability : o) ได้แก่ สภาพ
การระบายนํ้าของดิน
1.5) ความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหาร (nutrient availability : s) ได้แก่ ปริมาณธาตุอาหารในดิน
โดยพิจารณาร่วมกับความเป็นกรดเป็นด่างของดินหรือระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
1.6) ความจุในการดูดยึดธาตุอาหาร (nutrient retention : n) ได้แก่ ความจุแลกเปลี่ยน
แคตไอออน (CEC) และอัตราร้อยละความอิ่มตัวเบส (% BS)
1.7) สภาวะการหยั่งลึกของราก (rooting conditions : r) ได้แก่ ความลึกของดิน ความลึก
ของระดับนํ้าใต้ดินและชั้นการหยั่งลึกของราก ประกอบด้วยปริมาณก้อนกรวดหรือเศษหิน ลักษณะ
ของเนื้อดิน โครงสร้างดินและการเกาะตัวของดิน
1.8) ความเสียหายจากนํ้าท่วม (flooding hazard : f) ได้แก่ จํานวนครั้งที่นํ้าท่วมในรอบปี
ที่กําหนดไว้
1.9) การมีเกลือมากเกินไป (excess of salt : x) ได้แก่ ปริมาณเกลืออิสระที่สะสมมาก
เกินพอจนเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของพืช
1.10) สารพิษ คุณลักษณะของดิน (soil toxicity : z) ได้แก่ ระดับความลึกของจาโรไซต์
และปฏิกิริยาดินที่ทําให้เหล็กและอะลูมิเนียมละลายออกมามาก
1.11) สภาวะการเขตกรรม (soil workability : k) ได้แก่ ชั้นความยากง่ายในการเขตกรรม
1.12) ศักยภาพในการใช้เครื่องจักรกล (potential formechanization : w) ได้แก่ ความลาดชัน
ของพื้นที่ ปริมาณหินโผล่หรือก้อนหินโผล่
1.13) ความเสียหายจากการกร่อน (erosion hazard : e) ได้แก่ ความลาดชันของพื้นที่
และปริมาณดินที่สูญเสีย
2) วิธีการวัดและประเมินคุณภาพที่ดินหรือประเมินความเหมาะสมของที่ดิน
การประเมินคุณภาพที่ดินใช้ลักษณะและสมบัติของที่ดินประจําหน่วยที่ดินมาเป็น
ตัวแทนในการคาดคะเนร่วมกัน โดยพิจารณาลักษณะและสมบัติของที่ดินที่เป็นข้อจํากัดรุนแรงที่สุด
ต่อการเจริญเติบโตของพืช ก็จะได้ระดับความเหมาะสมของคุณภาพที่ดิน
3.1.4 ดินที่มีปัญหาต่อการเกษตรและปัญหาของทรัพยากรดิน
1) ดินปัญหา
ดินปัญหา หมายถึง ดินที่มีสมบัติบางประการไม่เหมาะสมหรือมีความเหมาะสมน้อย
สําหรับการปลูกพืช ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือจากการใช้ที่ดินอย่างไม่ระมัดระวัง ทําให้ดินเสื่อมโทรม
ลงจนเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของพืชได้ตามปกติ