Page 10 - คู่มือแนวทางการบริหารจัดการเขตเหมาะสมของที่ดินสำหรับพืชเศรษฐกิจ
P. 10
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
2-3
2) ความมั่นคงด้านพลังงาน ประเทศไทยยังขาดความมั่นคงด้านพลังงาน เนื่องจากต้อง
นําเข้านํ้ามันเชื้อเพลิงปีละไม่ตํ่ากว่า 1 ล้านล้านบาท ประเทศไทยต้องกําหนดนโยบายพลังงานทดแทน
จากพืช เศรษฐกิจ โดยใช้อ้อย (กากนํ้าตาล) และมันสําปะหลังในการผลิตเอทานอลเพื่อนํามาผลิต
นํ้ามันแก๊สโซฮอล และปาล์มนํ้ามันเพื่อผลิตไบโอดีเซล
3) มูลค่าการส่งออก ราคาผลผลิต พืชเศรษฐกิจเป็นสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูง รวมทั้ง
เกี่ยวข้องกับเกษตรกรเป็นจํานวนมาก พืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด คือ ข้าว ยางพารา มันสําปะหลัง ปาล์มนํ้ามัน
อ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 842,490 ล้านบาท และจํานวน
เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าทั้ง 6 ชนิดข้างต้นเป็นส่วนใหญ่ของครัวเรือนเกษตรกรทั้งหมด ประกอบกับเป็น
สินค้าที่มีปัญหาความไม่สอดคล้องระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ทําให้มีปัญหาราคาผันผวนให้ต้อง
แก้ไขอย่างต่อเนื่อง
2.2.2 ความสําคัญของเขตเหมาะสมสําหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ
การปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิดของประเทศไทย ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
เนื่องจากเกษตรกรส่วนหนึ่งนําพื้นที่ที่มีความเหมาะสมน้อย หรือไม่เหมาะสมมาใช้ปลูกพืช ส่งผลให้
ประสิทธิภาพการผลิตโดยเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ตํ่า ต้นทุนการผลิตสูง และหลายชนิดมีปริมาณเกินความ
ต้องการของตลาด จึงต้องมีการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมอย่างเหมาะสมสําหรับพืชเศรษฐกิจ
การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมเป็นแนวคิดที่ดําเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาล
ในการจัดการและใช้ที่ดินของประเทศเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด จึงต้องคํานึงถึงศักยภาพหรือความ
เหมาะสมของทรัพยากรที่ดินในการปลูกพืชเศรษฐกิจ เขตเหมาะสมสําหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจเป็น
กลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนให้การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมเกิดประโยชน์สูงสุด โดยนําเขต
เหมาะสมสําหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจไปดําเนินการ ดังนี้
1) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ในเขตเหมาะสมสูง และปานกลาง
2) ปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตในเขตเหมาะสมน้อย และเขตไม่เหมาะสม