Page 41 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 41
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
30
น้่าตาลมากขึ้น น้่าตาลนี้จะช่วยเพิ่มแรงดันออสโมซิสภายในผนังเซลล์ท่าให้พืชไม่เหี่ยวเฉาง่าย ซึ่งจะช่วย
กระตุ้นการเจริญเติบโตต่อระบบภูมิคุ้มกันของพืชด้วย (Rashid, 1985; William, 1993; Kononova,1966)
3. แหล่งที่มาของอินทรียวัตถุในดิน (อรรถและคณะ, 2548 ; ทิพวรรณ, 2549)
3.1 จากการย่อยสลายตัวของซากพืชและซากสัตว์โดยเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ จุลินทรีย์ที่ย่อยสลาย
อินทรียวัตถุได้มีหลายชนิด ที่ส่าคัญคือ แบคทีเรีย แอกติโนไมซีสต์ และรา
3.2 จากการย่อยสลายตัวของเศษชิ้นส่วนของพืชที่ไถ สับกลบ ลงไปในดิน เช่น ตอ ซัง เศษวัสดุของ
พืช หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว หรืออาจเป็นพืชที่ปลูกเพื่อไถกลบโดยเฉพาะ เช่น ปุ๋ยพืชสด
3.3 จากการสลายตัวของสิ่งขับถ่ายทั้งหลายจากคนและสัตว์
3.4 จากการสลายตัวของปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ที่ใส่ลงไปในดิน
3.5 จากเซลล์ของจุลินทรีย์ในดินที่ยังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว รวมถึงสารที่จุลินทรีย์ในดินสังเคราะห์ขึ้น
4. ปัจจัยที่ควบคุมการสลายตัวของอินทรียวัตถุ
การสลายตัวของอินทรียวัตถุในดินจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ได้แก่
4.1 ธรรมชาติของสารประกอบอินทรีย์ในพืช
พืชประกอบด้วย น้่า สารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ ส่วนประกอบที่เป็นน้่าจะอยู่ระหว่าง 50 –
95 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและอายุของพืชชนิดนั้นๆ พืชสีเขียวสดอยู่มีน้่าเป็นส่วนประกอบโดย
เฉลี่ย 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ไม่ใช่น้่าประกอบด้วย คาร์บอน 11 เปอร์เซ็นต์ ออกซิเจน 10 เปอร์เซ็นต์
ไฮโดรเจน 2 เปอร์เซ็นต์ และเถ้า 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวิเคราะห์ในรูปของสารประกอบอินทรีย์ ปรากฏว่าพืช
โดยทั่วไปประกอบด้วยสารประกอบอินทรีย์มากมายหลายชนิดและในปริมาณต่างๆ กัน ดังในตารางที่ 2.1
ตารางที่ 2.1 ชนิดและปริมาณของสารประกอบอินทรีย์ที่พบในพืช
สารประกอบ เปอร์เซ็นต์
1. คาร์โบไฮเดรท น้่าตาลและแป้ง 1 – 5
เฮมิเซลลูโลส 10 – 20
เซลลูโลส 20 – 50
2. ไขมัน, ขี้ผึ้ง, แทนนินฯ 1 – 8
3. ลิกนิน 10 – 30
4. โปรตีน โปรตีนที่ละลายน้่าได้ และ crude proteins 1 – 15
ที่มา: คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา (2541)
สารประกอบเหล่านี้จะถูกจุลินทรีย์ย่อยสลายได้จากง่ายไปยาก ดังนี้ น้่าตาล, กรดอะมิโนและกรด
อินทรีย์ต่างๆ ที่ละลายน้่า, แป้งหรือโปรตีน, เฮมิเซลลูโลส, ลิกนิน, ไขมัน, ขี้ผึ้ง และแทนนิน ตามล่าดับ
(คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2541)
ดังนั้น พืชที่มีอายุมากการสะสมลิกนินภายในพืชก็มากด้วยท่าให้ย่อยสลายใช้เวลามากขึ้นและพืชที่มี
ไขมัน ขี้ผึ้งและแทนนินมากมีผลท่าให้การย่อยสลายใช้เวลามากขึ้น เช่น เปลือกยูคา