Page 149 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 149
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
138
ตารางที่ 7.14 อัตราและวิธีการใช้น้ําหมักสําหรับพืชชนิดต่างๆ
ชนิดพืช อัตราน้ําหมัก วิธีการใช้
ข้าว
แช่เมล็ดพันธุ์ข้าว น้่าหมัก 20 มิลลิลิตรต่อ แช่เมล็ดข้าวเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
น้่า 20 ลิตรต่อเมล็ดข้าว 20 กิโลกรัม แล้วน่าขึ้นพักไว้ 1 วัน จึงน่าไปปลูก
ช่วงเตรียมดิน น้่าหมัก 5 ลิตรต่อไร่ ฉีดพ่นหรือรดลงดินระหว่างเตรียม
ดินหรือก่อนไถกลบตอซัง
ช่วงการเจริญเติบโต น้่าหมัก 5 ลิตรต่อไร่ เมื่อข้าวอายุ 30, เทลงในนาข้าว
50 และ 60 วัน
พืชไร่
ช่วงการเจริญเติบโต น้่าหมัก 1 ลิตร เจือจางด้วยน้่า 500 ฉีดพ่นหรือรดลงดินทุก 10 วัน ก่อน
ลิตร ในพื้นที่ 5 ไร่ ออกดอกและช่วงติดฝน
แช่ท่อนพันธุ์อ้อย น้่าหมัก 40 มิลลิลิตรต่อน้่า 20 แช่ท่อนพันธุ์อ้อยหรือมันส่าปะหลังเป็น
และมันส่าปะหลัง ลิตร เวลา 12 ชั่วโมงจึงลงปลูก
พืชผักและไม้ดอก น้่าหมัก 1 ลิตร เจือจางด้วยน้่า ฉีดพ่นหรือรดลงดินทุก 10 วัน
1,000 ลิตร ในพื้นที่ 10 ไร่
ไม้ผล น้่าหมัก 1 ลิตร เจือจางด้วยน้่า ฉีดพ่นหรือรดลงดินทุก 1 เดือนช่วง
500 ลิตร ในพื้นที่ 2 ไร่ ก่าลังเจริญเติบโต ก่อนดอกและช่วง
ติดผล
ที่มา: ดัดแปลงมาจากส่านักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน (2551)
2. ความมีเหตุผล หมายถึง ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการผลิตและการใช้น้่าหมัก เพราะการผลิตน้่าหมัก
ให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น เช่น การผลิตน้่าหมักจากปลา พบว่า มีปริมาณธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส มากกว่า หรือ
การผลิตน้่าหมักจากไข่ไก่ นมและถั่ว มีปริมาณกรดฮิวมิกและฮอร์โมนมาก (ออมทรัพย์และคณะ, 2547) ท่า
ให้ลดค่าใช้จ่ายปุ๋ยได้มากขึ้น การใช้น้่าหมักให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ควรใช้เกิน 3 เดือน (สุภาวดีและคณะ,
2556) ภาชนะที่ใส่ไม่ควรเป็นโลหะ เพราะน้่าหมักมีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งจะกัดกร่อนโลหะได้ ท่าให้มีโลหะเจือ
ปนในน้่าหมักและอาจเป็นพิษต่อพืชได้ แต่ควรเป็นพลาสติกทึบแสงและเก็บไว้ในที่ร่มอุณหภูมิไม่เกิน 45 –
50 องศาเซลเซียส พร้อมปิดฝาสนิทเพื่อป้องกันน้่าและอากาศเข้าไปเพราะจะท่าให้น้่าหมักเสื่อมสภาพได้
ก่อนใช้ควรเขย่าขวดทุกครั้ง นอกจากนี้น้่าหมักมีความเข้มข้นของสารอินทรีย์สูง ดังนั้นจึงจ่าเป็นต้องมีการ
เจือจางน้่าหมักทุกครั้งก่อนที่จะน่าไปใช้ เพราะน้่าหมักมีสภาพเป็นกรดจัดและยังมีค่าการน่าไฟฟ้าของ
สารละลายสูงด้วย หากไม่มีการเจือจางจะมีผลกระทบท่าให้เกิดการชะงักการเจริญเติบโตของพืช โดยเซลล์