Page 133 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 133

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                        122


                  ปริมาณอินทรียวัตถุเพียงพอ  ซึ่งเป็นวิธีการปรับระบบนิเวศของดินให้เป็นธรรมชาติ  เพื่อส่งเสริมให้จุลินทรีย์

                  ดินนานาชนิดอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล (Reisinger et al., 1992: Zhang et al., 1996)  จึงอาจกล่าวโดยสรุป
                  ได้ว่าเมื่อดินมีอินทรียวัตถุเพียงพอย่อมส่งเสริมให้จุลินทรีย์ดินนานาชนิดมีประชากรและกิจกรรมที่มีดุลยภาพ

                  เมื่อจุลินทรีย์ดินเหล่านี้ควบคุมกันเองได้ก็ไม่ปลดปล่อยให้เชื้อสาเหตุโรคพืชบางอย่างในดินมีมากและท่าลาย

                  พืชจนเกินขอบเขต  ประกอบกับพืชในสภาพดังกล่าวได้รับธาตุอาหารต่างๆ ครบถ้วน  ย่อมมีความแข็งแรง
                  และมีความต้านทานต่อโรคได้มากกว่าเดิม (Scholes et al., 1994)

                  6. การใช้ปุ๋ยพืชสดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

                         การใช้ปุ๋ยพืชสดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีหลัก 3 ประการที่ต้องยึดถือ คือ

                          1. ความพอประมาณ หมายถึง เกษตรกรควรมีเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดที่เพียงพอ  ส่าหรับการน่าไปปลูก

                  ในพื้นที่ท่าการเกษตรเพื่อปรับปรุงบ่ารุงดิน  ก่อนปลูกควรมีการทดสอบความงอกองเมล็ดก่อน  โดยเมล็ดที่ดี
                  ควรมีเปอร์เซ็นต์การงอกไม่น้อยกว่าร้อยละ 80  เพราะเมื่อน่าเมล็ดไปปลูกจะได้ค่านวณอัตราเมล็ดได้ถูกต้อง

                  อย่างเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะปลูก  ควรใช้ในอัตราเมล็ดพันธุ์ที่หน่วยงานราชการแนะน่าเพราะถ้าใช้น้อยเกินไป
                  จะได้จ่านวนประชากรพืชต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ต่่าไม่มีผลดีต่อการปรับปรุงบ่ารุงดิน  ถ้าใช้มากเกินไปจ่านวน

                  ประชากรพืชมาก  ท่าให้การเจริญเติบโตไม่เต็มที่ได้มวลชีวภาพไม่มากเท่าที่ควรเป็นการสิ้นเปลืองเมล็ด  โดย
                  ทางกรมพัฒนาที่ดินแนะน่า ดังนี้ สภาพพื้นที่ที่มีน้่าขังพืชปุ๋ยสดที่เหมาะสม คือ โสนอัฟริกัน  โดยใช้เมล็ด

                  อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่  ส่วนสภาพพื้นที่ดอนพืชปุ๋ยสดที่เหมาะสม  คือ ถั่วพร้าใช้เมล็ดอัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่

                  ปอเทืองใช้เมล็ดอัตรา 5  กิโลกรัมต่อไร่ และถั่วพุ่มใช้เมล็ดอัตรา 8  กิโลกรัมต่อไร่  ควรปลูกพืชปุ๋ยสดในช่วง
                  ที่ดินมีความชื้น  ไถกลบช่วงพืชปุ๋ยสดก่าลังออกดอกหรือระยะที่พืชปุ๋ยสดเจริญเติบโตมากที่สุด  โดยสภาพ

                  พื้นที่ปลูกพืชไร่ควรทิ้งเวลาหลังสับกลบพืชปุ๋ยสด 10 – 15 วัน  ส่วนในสภาพพื้นที่น้่าขังควรทิ้งเวลาหลังสับ

                  กลบพืชปุ๋ยสด 7 วัน  จึงปลูกพืชเศรษฐกิจตาม  ถ้ามีการใช้ปุ๋ยพืชสดต้องใช้ติดต่อกันทุกปีจะท่าให้ดินมีความ
                  อุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นและสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมี  ช่วยให้การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อปลูกพืชเป็นเกษตรอย่าง

                  ยั่งยืน และลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในดินด้วย  (ส่านักงานพัฒนาที่ดินเขต 5,  2541; ส่านัก
                  เทคโนโลยีชีวภาพทางดิน, 2551 )  และควรน่าเมล็ดพืชปุ๋ยสดมาคลุกเชื้อไรโซเบียมก่อนปลูก  เพราะจะท่าให้

                  ได้ธาตุไนโตรเจนเพิ่มขึ้น
                        2. ความมีเหตุผล หมายถึง ต้องมีความรู้และความเข้าใจชนิดของพืชปุ๋ยสดแต่ละชนิดว่ามีคุณสมบัติ

                  อย่างไร เช่น เป็นพืชมีอายุเท่าไร ลักษณะล่าต้น  เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอย่างไร  อายุเท่าไรจึงมีการไถกลบ

                  ระบบการปลูกร่มกับพืชเศรษฐกิจ เป็นต้น  เพื่อจะได้วางแผนในการใช้พืชปุ๋ยสดให้มีความเหมาะสมกับพืช
                  เศรษฐกิจและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด  พืชปุ๋ยสดที่กรมพัฒนาที่ดินได้ส่งเสริม มี 5 ชนิด คือ ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า

                  ปอเทือง โสนอัฟริกัน และถั่วมะแฮะ  ซึ่งคุณสมบัติของพืชปุ๋ยสดได้กล่าวไว้ในหัวข้อที่ 3

                        3. การสร้างภูมิคุ้มกัน โดยมีการวางแผนการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดที่ต้องการใช้ในให้เพียงพอกับ
                  ความต้องการกับพืชที่ปลูกในปีต่อไป  ซึ่งสามารถท่าได้โดยแบ่งพื้นที่ปลูกพืชปุ๋ยสดส่าหรับเก็บเมล็ดพันธุ์หรือ

                  เหลือพืชปุ๋ยสดที่ปลูกบางส่วนไว้ส่าหรับเก็บเมล็ดพันธุ์   โดยเมล็ดพันธุ์ที่เก็บได้ควรอยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสม
                  เพราะท่าให้เปอร์เซ็นต์การงอกของเมล็ดไม่ลดลง   นอกจากนี้ควรมีการรวมกลุ่มคนในชุมชนมารวมกันผลิต
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138