Page 98 - ผลสัมฤทธิ์ของการบูรณาการงานในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำเข็ก อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
P. 98
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
67
(4) ไถกลบซากพืชรวมทั้งการท าปุ๋ยพืชสดซึ่งเป็นการปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบ
ลงไปในดินในช่วงที่ก าลังออกดอกเพื่อเพิ่มธาตุอาหารพืชและอินทรียวัตถุแก่ดิน
(5) ใส่ปุ๋ยปุ๋ยอินทรีย์เช่นปุ๋ยหมักจะให้ผลในเชิงอนุรักษ์ดีกว่าปุ๋ยเคมี
(6) ไม่ควรปลูกพืชที่ใช้ธาตุอาหารพืชมากเกินไปหรือพืชท าลายดินพืชเหล่านี้ได้แก่
ข้าวโพดอ้อยมันส าปะหลังและยูคาลิปตัส
3) การปรับปรุงดินได้แก่การปรับความเป็นกรดด่างเค็มหรือสภาพทางกายภาพของดินให้
สามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นเช่น
(1) การใส่ปูนขาว (แคลเซียมไฮดรอกไซด์หรือแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์) หรือใสปูน
มาร์ลเพื่อแก้ไขดินกรด
(2) การใส่ยิปซัมเพื่อแก้ไขดินด่าง
(3) การทดน้ าเพื่อชะล้างเกลือหรือกรดออกจากดิน
(4) การใส่แกลบเพื่อดูดซับเกลือที่จะซึมขึ้นมายังผิวดินเดิมการใส่อินทรียวัตถุเช่น
หญ้าฟางข้าวเถาถั่วฯลฯลงในดินเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ท าให้ดินเหนียวมีลักษณะร่วนขึ้นดินทราย
เกาะตัวกันได้ดีขึ้นและช่วยให้ดินด่างมีความเป็นกรดมากขึ้น
4) การแก้ปัญหาการขาดแคลนพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพ
(1) เพิ่มประสิทธิภาพผลการวางแผนครอบครัว
(2) เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ที่ดินเช่นส่งเสริมให้เกษตรกรท าการเกษตรแผนใหม่
ซึ่งใช้พื้นที่จ ากัดแต่ได้รับผลผลิตสูงใช้แรงงานตลอดทั้งปีและมีรายได้อย่างต่อเนื่องหรือท าการเกษตร
ตามแนวทฤษฏีใหม่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเมื่อปี พ.ศ. 2532 เพื่อแก้ปัญหาฝน
แล้งความยากจนและการมีหนี้สินของเกษตรกรโดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรใช้พื้นที่เพียง10 ถึง 15 ไร่ใน
อัตราส่วน30ต่อ 30 ต่อ 30 ต่อ 10 นั่นคือจัดเป็นแหล่งน้ าเพื่อการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์น้ าร้อยละ30
แปลงปลูกพืชยืนต้นพืชผักพืชไร่และพืชสมุนไพรร้อยละ30 นาข้าวร้อยละ30 และจัดเป็นพื้นที่บ้าน
เลี้ยงสัตว์โรงเรือนหรือสิ่งอ านวยความสะดวกร้อยละ10 ทฤษฏีนี้ท าให้รูปแบบในการพัฒนาเกษตรกร
รายย่อยของไทยชัดเจนขึ้นอันจะน าไปสู่เศรษฐกิจแบบพอเพียงและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้
(3) ใช้ระบบวนเกษตรเช่นการจัดสรรพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยและ
ปลูกป่าหรือไม้ยืนต้นหรือให้ใช้พื้นที่ป่าแต่ต้องช่วยรักษาต้นไม้หรือป่าไม้ไว้
(4) สร้างที่อยู่อาศัยในพื้นที่จ ากัดให้รองรับประชาชนได้มากขึ้น
(5) พัฒนาพื้นที่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้นเช่นการปรับปรุงดินเปรี้ยวให้
สามารถท าการเกษตรได้หรือสูบดินทรายจากแหล่งน้ าขึ้นมาถมพื้นที่เพื่อจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัย
5) การวางแผนและใช้ที่ดินอย่างเหมาะสมได้แก่การจัดท าผังเมืองและการแบ่งเขตการใช้
ที่ดิน (Zoning) ตามความเหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์เช่นแบ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยการศึกษา
เกษตรกรรมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเขตพื้นที่ปลูกไม้ยืนต้น
3.4.4 วิธีการอนุรักษ์ดินและน้ าด้วยหญ้าแฝก (กรมพัฒนาที่ดิน, 2557)
หญ้าแฝก (Vetiver grass) เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวตระกูลเดียวกับข้าวโพดข้าวฟ่างอ้อย
พบกระจายทั่วไปตามธรรมชาติหญ้าแฝกเป็นพืชที่เจริญเป็นกอขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง50-90
เซนติเมตรมีระบบรากเจริญลงดินในแนวดิ่งมากกว่าด้านข้างรากหยั่งลึกลงดิน1.50-3.00เมตรบริเวณ