Page 13 - การศึกษาประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อการเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
P. 13

4





                              ดินที่มีการดูดยึดฟอสฟอรัสสูงส่วนใหญ่เป็นดินที่มีเนื้อดินปานกลางถึงละเอียด
                       มีส่วนประกอบทางแร่เป็นกลุ่มอสัณฐาน (Amorphous) โดยพบในอันดับดินออกซิซอล (Oxisol)
                       อัลติซอล (Ultisol) และแอลฟิซอล (Alfisol) ซึ่งส่วนใหญ่มีส่วนประกอบทางแร่เป็นออกไซด์ของเหล็ก
                       และอลูมินั่ม โดยดินในอันดับดินออกซิซอลล์ (Oxisols)  เป็นดินที่ดูดยึดฟอสเฟตสูง เพราะมีปริมาณ

                       เซสควิออกไซด์อยู่มากและมักมีเนื้อปานกลางถึงละเอียด ดินพวกนี้จํากัดตัวอยู่ในเขตร้อน เป็นส่วน
                       ใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเหล็กและอะลูมินั่มออกไซด์ทําให้ฟอสฟอรัสถูกดูดยึดในรูปเหล็กและอะลูมินั่ม
                       ฟอสเฟตการดูดยึดจะขึ้นอยู่กับความมากน้อยของธาตุทั้งสองชนิด และค่าความเป็นกรดเป็นด่างของ
                       ดิน ในประเทศไทยพบในชุดดินโชคชัย ซึ่งเป็นดินที่ถือกําเนิดจากหินบะซอลต์ เป็นต้น อันดับดิน

                       อัลติซอลล์ (Ultisols)  มีเนื้อละเอียดและมีเซสควิออกไซด์มากทําให้สามารถดูดยึดฟอสฟอรัสได้มาก
                       โดยส่วนใหญ่พบมากในดินทรายของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ดินชั้นบนไม่ดูดยึด
                       ฟอสฟอรัส แต่จะถูกดูดยึดสะสมอยู่ในดินชั้นล่างประมาณ 20-30 เซนติเมตร ลงไปซึ่งดินจะมีเนื้อ
                       ละเอียดมากกว่าดินชั้นบนโดยฟอสเฟตถูกดูดยึดในรูปของเหล็กและอะลูมินั่มฟอสเฟต และถูกดูดยึด

                       อย่างรวดเร็วในดินที่มีสภาพเป็นกรด (ปัทมา, 2543)

                       การจัดการดินเพื่อเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดินกรดจัด
                              จากการศึกษาของ Turan  et  al. (2006) พบว่าการใส่ปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสเพื่อเพิ่มปริมาณ
                       ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินที่มีสภาพเป็นกรดจัด ฟอสฟอรัสที่ใส่ลงไปกว่า 75-90 เปอร์เซ็นต์
                       จะเกิดการตกตะกอนกับเหล็กและอะลูมินั่มในดิน ทําให้พืชไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ในขณะที่การ

                       จัดการโดยการใส่ปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสร่วมกับวัสดุปรับปรุงดินชนิดอื่นๆ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และวัสดุ
                       ปูน เป็นต้น สามารถเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดินและผลผลิตพืชได้ดี โดยนริศ (2551)
                       ได้ศึกษาอิทธิพลของการใส่ปูนร่วมกับปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสต่อการเจริญเติบโตของข้าวโพดหวานในดินกรด

                       จัด พบว่าการใส่ปูนร่วมกับปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสมีปฏิสัมพันธ์ทางบวกกับค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน
                       โดยค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินที่เพิ่มขึ้น ทําให้ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินเพิ่มขึ้น
                       ตามไปด้วย ขณะที่บรรเจิดลักษณ์ (2553) ได้ศึกษาการจัดการดินกรดจัด (pH 4.6) เพื่อการผลิตข้าว
                       พบว่าการใช้พืชปุ๋ยสด อัตรา 2 ตันต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสตามค่าวิเคราะห์ดิน สามารถเพิ่ม
                       ผลผลิตข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้สูงกว่าการใส่ปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสตามค่าวิเคราะห์ดินเพียงอย่างเดียว โดยให้

                       ผลผลิต 655.00 และ 464.00 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลําดับ นิรันดร์และวันชัย (2555) พบว่าการปรับปรุง
                       ดินกรดจัดด้วยปุ๋ยหมักร่วมกับการใส่ปูนตามค่าความต้องการปูนของดิน ทําให้ข้าวโพดมีผลผลิตสูง
                       กว่าการปรับปรุงดินด้วยการใช้ปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียวถึง 10 เปอร์เซ็นต์

                       การใช้จุลินทรีย์เพื่อเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดิน

                              ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกมีการประยุกต์ใช้ประโยชน์จุลินทรีย์ดินที่มีประสิทธิภาพในการ
                       ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟต เป็นปุ๋ยชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตพืช โดยกลุ่มจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์
                       ฟอสเฟต (Phosphate Solubilizing Microorganism; PSM) เป็นจุลินทรีย์ดินที่มีความสามารถใน
                       การละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตที่อยู่ในรูปสารประกอบอนินทรีย์ฟอสเฟตที่ไม่ละลายน้ําให้อยู่ในรูปที่

                       ละลายน้ําได้และเป็นประโยชน์แก่พืช จุลินทรีย์เหล่านี้มีหลายชนิดทั้งที่เป็นแบคทีเรียและเชื้อรา เช่น
                       Aspergillus sp.,  Penicillium  sp.,  Pseudomonas  sp.,  Azospirillum  sp.,  Bacillus  sp.,
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18