Page 11 - การศึกษาประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อการเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
P. 11

2





                                                           วัตถุประสงค์

                              1. ศึกษาประสิทธิภาพการละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตของจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ในดิน
                       กรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

                              2. ศึกษาอัตราการใช้จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าว
                       ในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
                              3. ศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของการปลูกข้าวโดยใช้จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ในดิน
                       กรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

                                                         การตรวจเอกสาร

                       ดินกรด
                              ดินกรดเป็นดินที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง หรือ พีเอช ต่ํากว่า 7.0 แต่ดินกรดที่มีปัญหาคือ

                       ดินกรดที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ํากว่า 5.5 เป็นดินที่มีการพัฒนาของดินมายาวนาน และเป็นดิน
                       ที่ถูกน้ําฝนชะล้างมาเป็นเวลานาน ทําให้ดินมีสภาพเป็นกรด ความอุดมสมบูรณ์ต่ํา ขาดแคลนธาตุ
                       อาหารพืช รวมทั้งธาตุบางชนิดละลายออกมามากจนเป็นอันตรายต่อพืช ทําให้การเจริญเติบโตไม่ปกติ

                       และให้ผลผลิตต่ํา โดยค่าความเป็นกรดเป็นด่างในแต่ละช่วงจะมีผลต่อความเป็นประโยชน์ของธาตุ
                       อาหารพืช จากรายงานสถานภาพดินของประเทศไทย พบว่าดินส่วนใหญ่ของประเทศไทยมีสภาพ
                       ความเป็นกรดเป็นด่าง อยู่ระหว่าง 4.6-5.5 คิดเป็น 46.83 เปอร์เซ็นต์ของจํานวนข้อมูลทั้งหมด พื้นที่
                       ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก คิดเป็น 47.17-58.17 เปอร์เซ็นต์
                       ของจํานวนข้อมูลในแต่ละภาค (กรมพัฒนาที่ดิน, 2558) ปัญหาสําคัญของดินกรด คือ ความเป็น

                       ประโยชน์ของธาตุอาหารพืช โดยเฉพาะฟอสฟอรัสจะถูกดูดยึด ทําให้พืชไม่สามารถดูดใช้ได้ นอกจาก
                       นี้อะลูมินัมและเหล็กละลายออกมามากเกิดปฏิกิริยากับฟอสฟอรัสทําให้การตกตะกอนไม่ละลายน้ํา
                       พืชไม่สามารถดูดใช้ได้  (Uribe, 1989)

                       ฟอสฟอรัสในดิน
                              ฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการในปริมาณมาก ช่วยในการสังเคราะห์โปรตีนและ
                       สารอินทรีย์ที่สําคัญในพืช เป็นองค์ประกอบของสารที่ทําหน้าที่ถ่ายทอดพลังงานในกระบวนการต่างๆ
                       เช่น การสังเคราะห์แสงและการหายใจ กระบวนการเพื่อการดํารงชีวิตและการเติบโตของพืชต่างๆ

                       เช่น การดูดน้ําและธาตุอาหารพืช การสร้างสารและการขนย้ายสาร ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต
                       ความแข็งแรงของพืช การออกดอกออกผล เมื่อพืชขาดฟอสฟอรัสจะมีอาการใบล่างเริ่มมีสีม่วงตาม
                       แผ่นใบ ต่อมาใบเป็นสีน้ําตาลและร่วงหล่น ลําต้นแกร็นไม่ผลิดอกออกผล (คณาจารย์ภาควิชา
                       ปฐพีวิทยา, 2541)

                              รูปของฟอสฟอรัสในดิน สามารถจําแนกตามองค์ประกอบได้  2 ประเภทหลัก คือ อินทรีย์
                       ฟอสฟอรัส และอนินทรีย์ฟอสฟอรัส
                              อินทรีย์ฟอสฟอรัสพบในดินชั้นบน เศษชิ้นส่วนของรากพืช ซึ่งพืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้
                       การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสลงในดิน ฟอสฟอรัสบางส่วนจะถูกจุลินทรีย์เปลี่ยนรูปไปเป็นอินทรีย์ฟอสฟอรัส

                       (Cosgrove, 1976) ดินส่วนใหญ่จะมีฟอสฟอรัสในช่วง 0.5-500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยในดินที่ทํา
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16