Page 56 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 56
51
ชนิดยอมไมเหมือนกัน ดินทรายซึ่งมีเนื้อหยาบ เปนดินที่มีความจุในการอุมน้ําต่ําที่สุด ดินรวนมีความจุใน
การอุมน้ําต่ํารองลงมา และดินเหนียวมีความจุในการอุมน้ําสูงที่สุด จึงเปนเครื่องชี้บอกใหทราบวาดินทรายมี
ความตองการในการใหน้ําบอยครั้งกวา และปริมาณน้ําที่ใหแตละครั้งนอยกวาดินเหนียว เมื่อเปรียบเทียบกัน
ดินเหนียวมีขนาดอนุภาคของดินเล็กมาก ยอมมีพื้นผิวสัมผัสมากกวาดินทราย เมื่อมีปริมาตรเทาๆ
กัน ความชื้นในดินเหนียวจึงมีมากกวา ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบดูเปอรเซ็นตความชื้นถึงขีดเฉาแลว
ความชื้นในดินเหนียวมีมากกวาดินทราย แสดงใหเห็นวา เปอรเซ็นตความชื้นมากหรือนอยไมไดเปนเครื่อง
ชี้บอกถึงแรงดึงความชื้นวามีมากนอยเทาใดเสมอไป ดินเหนียวพบวามีแรงดึงความชื้นมากกวาดินทราย สวน
ปริมาณความชื้นที่เปนประโยชนตอพืชนั้น ดินเนื้อละเอียดสามารถเก็บความชื้นไวใหพืชไดมากกวาดินเนื้อ
หยาบเสมอ
น้ําเปนตัวทําลาย (Solvent) ที่ดี และตัวทําลายผิวหนาดินใหสึกกรอน (Erosive agent) น้ําฝนที่ตกลง
มากอนกระทบผิวหนาดิน ตองผานอากาศซึ่งมีกาซคารบอนไดออกไซดปะปนอยู จึงมีฤทธิ์เปนกรดอยาง
ออนเมื่อฝนตกถึงพื้น เม็ดฝนจะกระทบผิวดิน หากผิวกินดินไมมีสิ่งปกคลุม เนื้อดินจะถูกแรงตกกระทบของ
ฝนตกกระจายออกจากดิน ปริมาณของฝนที่ตกลงมามีมากขึ้น เมื่อรวมกันเขาสวนหนึ่งไหลซึมลงดินตามชอง
รูพรุนและถูกดูดซับอยูโดยรอบอนุภาคของเม็ดดิน อีกสวนหนึ่งไหลซึมตอลงสูใตดิน ชะลางเอาแรธาตุตางๆ
และอินทรียวัตถุลงไปสะสมอยูในดินชั้นลาง บางสวนอาจซึมลงสูระดับน้ําใตดิน (Ground-water level) เกิน
กวาระดับรากพืชจะดูดขึ้นมาใชประโยชนได เรียกวาการชะลางธาตุอาหารในดิน (Leaching) นับวาเปนการ
สูญเสียธาตุอาหารตามธรรมชาติวิธีหนึ่ง น้ําฝนสวนอื่นๆ ที่เหลือซึ่งเปนสวนเกินที่ดินจะดูดซับไวได และไม
สามารถที่จะไหลซึมผานดินตอไปไดอีก ก็จะไหลผานทวมผิวดิน กลายเปนน้ําไหลบา (Run off water) พัด
พาเอาเนื้อดิน และธาตุอาหารบนผิวดินไปกับน้ํา จากที่สูงลงสูที่ต่ํา ออกแมน้ําลําธาร ซึ่งเปนการสูญเสียดิน
และธาตุอาหารตามธรรมชาติอีกวิธีหนึ่ง เรียกกวาการชะลางพังทลายของดิน (Soil erosion) ทําใหคุณสมบัติ
ของดินบริเวณนั้นๆ เปลี่ยนไปจากเดิมในลักษณะเสื่อมโทรมลง
7.5. ความสัมพันธระหวางน้ํากับพืช (Water and plant relationship)
น้ําในดินหรือความชื้นที่พืชดูดไปใชได (Available moisture) เปนน้ําดูดซึม (Capillary water)
ตั้งแตระดับความชื้นชลประทาน (Field capacity) คือความชื้นในดินหลังจากน้ําอิสระถูก ระบายออกไปแลว
จนถึงความชื้นที่จุดเหี่ยวถาวร (Permanent wilting point) คือความชื้นในดินที่มีนอยจนกระทั่งพืชไมสามารถ
ดูดมาใชทดแทนการคายน้ําจนพืชเหี่ยวเฉาอยางถาวร
น้ําเปนปจจัยสําคัญ และเปนวัตถุดิบที่พืชดึงดูดเอาจากดินแลวนําไปใชประโยชนในกระบวนการ
ปรุงอาหาร หรือสังเคราะหแสง เพื่อเสริมสรางการเจริญเติบโต แตกกิ่งกานสาขา ผลิดอกออกผลและเมล็ด
น้ํายังเปนสวนประกอบอันสําคัญภายในเซลลของพืช ซึ่งทําหนาที่ชวยควบคุมอุณหภูมิภายในตนพืช
และอุณหภูมิของอากาศที่อยูภายนอก ชวยรักษารูปทรงเนื้อเยื่อตางๆ ของพืชใหคงตัวไมเหี่ยวเฉา อีกทั้งเปน
ตัวทําละลายแรธาตุตางๆ ในดินใหอยูในรูปสารละลายที่พืชสามารถดูดไปใชประโยชน