Page 51 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 51
46
ตารางที่ 4 (ตอ)
ปญหาดิน กลุมชุดดิน ลักษณะและสมบัติดินที่เปนปญหา
2. ดินเค็ม 12, 13 มีเนื้อดินเปนดินเลน มีน้ําทะเลทวมถึงประจําทุกวัน ทําใหดินเปนดินเค็ม
และความสามารถในการรองรับน้ําหนักต่ํามาก ขาดแคลนแหลงน้ําจืด ไม
สามารถใชปลูกพืชได ยกเวนใชปลูกปาชายเลนและเพาะพันธุสัตวน้ําทะเล
(บางกลุมชุดดินมีศักยภาพกอใหเกิดเปนดินกรดกํามะถัน)
20 มีชั้นสะสมเกลือระดับความลึก 200 เซนติเมตรจากผิวดินหรือมีคราบเกลือ
สะสมที่ผิวดินมาก ทําใหดินแนนทึบ ขาดแคลนแหลงน้ําจืด เมื่อพืชขาก
แคลนน้ํา พืชจะสูญเสียน้ํา เหี่ยวเฉาและตายอยางรวดเร็ว
3. ดินทราย 42 มีชั้นดินทรายหนาและพบชั้นดานอินทรียภายในความลึก 100 เซนติเมตร
จากผิวดิน ทําใหความสามารถของดินในการดูดซับน้ําและธาตุอาหารต่ํา
ความอุดมสมบูรณต่ํา ขาดแคลนน้ํา ในชวงที่มีฝนตกชุก อาจมีน้ําทวมขัง
หรือมีระดับน้ําใตดินตื้น ทําใหพืชที่ปลูกเสียหายหรือเกิดรากเนา
43,44 มีชั้นดินทรายหนามากกวา 100 เซนติเมตรจากผิวดิน ทําใหความสามารถ
ของดินในการดูดซับน้ําและธาตุอาหารต่ํา ความอุดมสมบูรณต่ํา ขาดแคลน
น้ํา ในพื้นที่ลาดชัน หนาดินงายตอการเกิดการชะลางพังทลาย
4. ดินตื้น 47, 51 พบชั้นหินพื้นตื้นภายในความลึก 50 เซนติเมตรจากผิวดิน ทําใหรากพืชไม
สามารถชอนไชผานชั้นหินพื้นไปได การดูดซับน้ําและธาตุอาหารต่ํา
ความอุดมสมบูรณต่ํา เกิดการชะลางพังทลายสูงในพื้นที่ลาดชันและจํากัด
ชนิดพืชที่ปลูก
45, 46, 48, พบชั้นลูกรัง กอนกรวด หรือเศษหินมากในระดับตื้น พบภายในความลึก
49 50 เซนติเมตรจากผิวดิน ทําใหรากพืชชอนไชผานไปไดยาก การดูดซับน้ํา
และธาตุอาหารต่ํา ความอุดมสมบูรณต่ํา ในพื้นที่ลาดชันหนาดินงายตอการ
ถูกชะลางพังทลาย และขาดแคลนน้ํา
52 ดินตื้นถึงชั้นมารล ทําใหรากพืชไมสามารถชอนไชผานชั้นมารลได ดิน
เปนดางจัด ขาดแคลนน้ําและจํากัดชนิดพืชที่ปลูก
5. ดินอินทรีย 57, 58 มีวัสดุดินอินทรียหนามากกวา 40 เซนติเมตรจากผิวดิน มีน้ําทวมขังนาน
เกือบตลอดป การรองรับน้ําหนักต่ํา เมื่อแหงดินอินทรียแหงจะยุบตัวมาก
ดินและน้ําเปนกรดจัดมาก ทําใหเกิดความไมสมดุลของธาตุอาหาร พืชจะ
แสดงอาการขาดธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี โบรอน
และแมงกานีส