Page 54 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 54
49
เปอรเซ็นต เทานั้น และในจํานวนน้ําจืดนี้ ยังเปนน้ําแข็งที่ขั้วโลก ประมาณ 76.51 เปอรเซ็นต เปนน้ําบาดาล
ประมาณ 22.93 เปอรเซ็นต ในทะเลสาบ 0.34 เปอรเซ็นต ในอากาศ 0.03 เปอรเซ็นต ในแมน้ําลําคลอง 0.01
เปอรเซ็นต และในดินเปยก-ดินชื้นประมาณ 0.18 เปอรเซ็นตเทานั้น น้ําในดินนี้มีผลกระทบตอคุณสมบัติ
ตางๆ ทั้งทางฟสิกส เคมี และชีวะวิทยาของดินเปนอยางมาก นอกจากนี้ น้ํายังมีบทบาทที่สําคัญตอการสราง
ผลิตผลการเกษตรจากพืชใหไดตรงตามเวลา ทั้งปริมาณและคุณภาพตามที่ตองการ ในการปลูกพืชหากมีการ
จัดการเรื่องน้ําที่ดี จะสามารถควบคุมหรือชักนําการออกดอกออกผลทั้งในและนอก ฤดูกาลเพาะปลูกไดอยาง
มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอยางยิ่งในการปลูกไมผลตางๆ เชน มะนาว สม มะมวงและนอยหนา เปนตน
ดังนั้น เกษตรกรและผูเกี่ยวของกับการจัดการน้ําจึงควรมีความรูในเรื่อง ความสัมพันธระหวางดิน น้ําและพืช
อยางเพียงพอเพื่อใชน้ําอยางมีประสิทธิภาพ ไดผลผลิตทางการ เกษตรสูง ปองกันไมใหเกิดสภาพดินเค็ม
และมีการระบายน้ําอยางเหมาะสมอีกดวย
7.2. ความสําคัญของดินตอพืช
ดินเปรียบเสมือนเปนที่อยูอาศัยของพืช ที่เกาะยึดเหนี่ยวของรากพืช แหลงแรธาตุอาหาร และถังน้ํา
หรือที่เก็บกักน้ําตามธรรมชาติ เพื่อใหรากพืชดูดเอาความชื้นจากดินไปใชตามชวงเวลาที่พืชตองการ โดยน้ํา
ในดินจะถูกเก็บอยูในชองวางระหวางเม็ดดินที่เปนของแข็ง ชองวางเหลานี้ถาไมมีน้ําบรรจุอยูจะมีอากาศเขา
ไปแทนที่ ดังนั้น ถาพิจารณาดินตามสถานะจะพบวาในดินมี 3 สถานะคือ สถานะของแข็ง ไดแก อนินทรีย
วัตถุและอินทรียวัตถุ สถานะของเหลว ไดแก น้ํา และสถานะกาซไดแก อากาศ สําหรับดินที่เหมาะสม
สําหรับการเกษตร ควรมีสวนที่เปนของแข็ง 50 เปอรเซ็นต กาซ 25 เปอรเซ็นต และของเหลว 25 เปอรเซ็นต
ดังภาพที่ 2
ภาพที่ 2 สวนประกอบของดินที่เหมาะสมในการปลูกพืชโดยปริมาตร