Page 23 - การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับถั่วพร้าต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนในชุดดินนครปฐม
P. 23
11
3. ปุ๋ยอินทรีย์
3.1 ความหมายและชนิดของปุ๋ยอินทรีย์
ปุ๋ยอินทรีย์ หมายถึง ปุ๋ยที่มีองค์ประกอบหลักเป็นสารอินทรีย์ต่างๆที่ได้มาจากซากพืช
ซากสัตว์ สิ่งขับถ่ายจากสัตว์ เศษเหลือของสารอินทรีย์ต่างๆที่ใส่ลงในดินแล้วให้ธาตุอาหารหลัก ธาตุ
อาหารรองและจุลธาตุแก่พืช บ ารุงดิน ปรับปรุงดินมีคุณสมบัติทางสมบัติทางกายภาพ เคมี และชีวภาพดี
ขึ้น ปริมาณของธาตุอาหารแต่ละธาตุในปุ๋ยอินทรีย์โดยทั่วไปมีค่อนข้างต่ าและต้องผ่านกระบวนการย่อย
สลายโดยกิจกรรมของจุลินทรีย์เสียก่อน จึงปลดปล่อยออกมารูปที่เป็นประโยชน์แก่พืช (สมาคมดินและ
ปุ๋ยแห่งประเทศไทย, 2546) ปุ๋ยอินทรีย์สามารถท าได้หลายชนิดขึ้นอยู่กับวัสดุเริ่มต้นและกระบวนการ
ผลิต ได้แก่
3.1.1 ปุ๋ยหมัก คือ ปุ๋ยที่ได้จากอินทรีย์สารที่ผ่านการหมักให้สลายตัวผุพังไปบางส่วนแต่
การที่จะปล่อยให้สลายตัวผุพังไปเท่าใดก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่อ านวยให้ชนิดของวัสดุที่ใช้ และกรรมวิธี
ในการหมักตลอดจนการต้องการของผู้ใช้ โดยปกติจะหมักให้อินทรีย์สารเหล่านั้นเปื่อยยุ่ยจนเป็นสีคล้ า
หรือด าก็เป็นอันว่าใช้ได้ แต่ถ้าใช้ในการเพาะปลูกพืชล้มลุกที่ต้นเล็กอาจต้องหมักไว้จนกระทั่งมีลักษณะ
เป็นผงละเอียดจึงจะน าไปใช้ได้ อินทรีย์สารที่น ามาหมักนั้นอาจเป็นเศษพืชอย่างเดียวหรือเป็นเศษพืช
ผสมซากสัตว์หรืออาจผสมปุ๋ยคอกลงไปบางส่วนก็ได้ เมื่อน ามากองรวมกันและให้ความชื้นให้เหมาะสม
จะท าให้เกิดการย่อยสลายโดยกิจกรรมของจุลินทรีย์อย่างรวดเร็ว ซึ่งสังเกตได้ว่าจะมีความร้อนเกิดขึ้น
ภายในกองจึงต้องกลับปุ๋ยและรดน้ าให้ทั่ว ท าเช่นนี้ 2-3 ครั้ง และหมักไปจนกระทั่งความร้อนภายในกอง
หมดไป (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2541) ปุ๋ยหมักที่สมบูรณ์จะมีสมบัติคล้ายกับอินทรียวัตถุ ซึ่งจะ
เป็นสิ่งที่มีคุณค่าในการบ ารุงดินมากที่สุด ปัจจุบันนี้มีการผลิตปุ๋ยหมักในเชิงอุตสาหกรรมมาใช้ในการ
ปลูกพืช ส่วนปุ๋ยหมักที่เกษตรกรผลิตขึ้นใช้เองนั้นยังมีปริมาณน้อย (ด าริ และสุทิน, 2542) ปุ๋ยหมักที่มี
คุณภาพดีควรมีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N ratio) ต่ ากว่าหรือเท่ากับ 20:1 มีปริมาณธาตุ
อาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม 1, 1 และ 0.5 ตามล าดับ ปริมาณอินทรีย์วัตถุไม่เกิน
60 เปอร์เซ็นต์ ควรมีความชื้นของปุ๋ยหมักที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ระดับความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) อยู่ระหว่าง
5.5-8.5 และความเค็มที่วัดค่าการน าไฟฟ้า (EC) ไม่เกิน 3.5 dS/m เมื่อการย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์จะได้
สารอินทรีวัตถุที่มีความคงทน ไม่มีกลิ่น มีสีน้ าตาลปนด า (มุกดา, 2545) การท าปุ๋ยหมักต้องค านึงถึงวัสดุ
เกษตรที่น ามาท าปุ๋ยหมัก ต้องดูสัดส่วนของ C:N ratio ใช้ซังข้าวโพดที่มี C:N ratio ประมาณ 18-22 กับ
มูลสัตว์ เริ่มกระบวนการหมักโดยใช้ซังข้าวโพด 1 ส่วน มูลสัตว์ 2 ส่วน รักษาความชื้น 40% โดยน้ าหนัก
ความชื้นไม่ควรสูงมาก เพราะจุลินทรีย์จะตาย ในปุ๋ยหมักมีจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยสลายอยู่แล้ว นอกจากนี้ยัง
มีกรดอินทรีย์ ช่วยย่อยวัสดุ ใช้เวลาประมาณ 20-30 วัน กลับกองบ่อยๆ จะเป็นปุ๋ยหมักเร็วขึ้น (นันทกา,
2548)