Page 25 - การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับถั่วพร้าต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนในชุดดินนครปฐม
P. 25
13
เป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน และปรับปรุงบ ารุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงทดแทนธาตุ
อาหารบางส่วนที่พืชน าไปใช้ในระหว่างการเพาะปลูก ซึ่งธาตุอาหารพืชได้สูญเสียไปโดยติดไปกับ
ผลผลิตทางการเกษตร (ฉวีวรรณ และคณะ, 2544) การตัดเก็บเกี่ยวผลผลิตพืชควรเหลือต้นตอซัง ใบและ
ยอดไว้ในแปลงเสมอ ไม่ควรเผาท าลายเพราะท าให้ธาตุอาหารบางธาตุในเศษเหลือพืชเป็นก๊าซสูญเสียไป
มีเกษตรกรน้อยรายที่ใช้วิธีไถกลบต้นข้าวโพดลงแปลงเพื่อท าเป็นปุ๋ยบ ารุงดิน เนื่องจากหลังจากหักฝัก
ออกไปแล้ว จะมีพ่อค้าเข้ามาซื้อต้นเพื่อน าไปผลิตเป็นพืชอาหารสัตว์โดยซื้อเหมายกสวนราคาตั้งแต่ไร่ละ
700-800 บาท หรือแล้วแต่จะตกลงกับเจ้าของแปลง เท่ากับว่าการขายต้นเป็นการได้ต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์
คืนมา (วรรณภา, 2549) พืชไร่ที่ให้ตอซังในปริมาณมากพอ ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ซึ่งเป็นพวกธัญพืชที่
มี C/N ratio กว้าง (60:1) ส่วนตอซังถั่วเหลือง ถั่วลิสง และถั่วเขียว เป็นกลุ่มพืชที่มี C/N ratio 40:1
(ด าริ และ สุทิน, 2542) วัสดุเหลือใช้จากการเกษตรที่มีมากกว่าวัสดุชนิดอื่นคือ ฟางข้าว มีรวมทั้งสิ้น
25.45 ล้านตันต่อปี และพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาได้แก่เศษต้นข้าวโพด เศษต้นถั่ว
เหลืองที่พบมากทางภาคเหนือปริมาณตอซังในพื้นที่การเกษตรมีจ านวน 29.1 ล้านตันต่อปี ประกอบด้วย
ตอซังข้าว ตอซังข้าวโพดเศษใบอ้อย ตอซังตระกูลถั่วและตอซังข้าวฟ่าง มีปริมาณ 16.9, 1.8, 2.0, 1.5 และ
0.9 ล้านตันต่อปี ตามล าดับ โดยในพื้นที่การเกษตร 1 ไร่ จะมีปริมาณตอซังข้าว ตอซังข้าวโพด เศษใบ
อ้อย ตอซังพืชตระกูลถั่ว และตอซังข้าวฟ่างจ านวน 1.03, 0.49, 0.91, 0.58 และ 0.45 ตันต่อไร่ ตามล าดับ
ปริมาณธาตุอาหารในวัสดุตอซังดังกล่าวมี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม โดยเฉลี่ย 0.99, 0.26
และ 2.03% ตามล าดับ (กรมพัฒนาที่ดิน, 2544) ปริมาณฟางข้าวและใบอ้อยที่เหลือในพื้นที่เพาะปลูกมี
ประมาณ 50 และ 9 ล้านตัน/ปี ตามล าดับ และซากพืชอื่นๆ ที่ตกค้างในแปลงมีประมาณ 150 ล้านตัน/ปี
(สมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย, 2546)
3.1.5 ผลพลอยได้จากโรงงานแปรรูปผลิตทางการเกษตรอุตสาหกรรมการแปรรูปผลผลิต
ทางการเกษตร เช่น โรงสี โรงงานน้ าตาล โรงงานแป้งมันส าปะหลัง โรงงานหีบน้ ามันจากเมล็ดพืช ฯลฯ
เศษวัสดุที่เป็นผลพลอยได้ที่เป็นกากหรือของเสียนั้นบางชนิดสามารถน าไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น
กากอ้อยน าไปท ากระดาษ บางชนิดอาจน าไปใช้ในกิจการเลี้ยงสัตว์ เช่น กากถั่วเหลือง กากถั่วลิสง แต่ก็
ยังมีอีกหลายชนิดซึ่งไม่เหมาะที่จะน าไปใช้ประโยชน์อื่นๆ แต่สามารถที่จะน ามาใช้หรือปรุงแต่งให้เป็น
ปุ๋ยได้ เช่น แกลบ กากอ้อยป่น กากละหุ่ง กากเมล็ดนุ่น กากผงชูรส ฯลฯ ส าหรับกากละหุ่ง กากเมล็ดนุ่น
และกากผงชูรสนั้น สามารถน าไปใช้เป็นปุ๋ยได้โดยตรงเนื่องจากมีไนโตรเจนอยู่ในปริมาณสูง แต่แกลบ
และกากอ้อยป่นนั้นจะต้องปรุงแต่งโดยการเติมธาตุอาหารพืชที่ยังขาดลงไป แล้วหมักให้เปื่อยยุ่ยเสียก่อน
จึงมีสภาพเหมาะสมที่จะน ามาใช้เป็นปุ๋ย ปริมาณธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ในกาก
เมล็ดนุ่น กากละหุ่ง กากอ้อยป่น และกากถั่วบางชนิด (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2541)