Page 28 - ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรม ต่อความอุดมสมบูรณ์ของดิน และการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ปลูกข้าวโพด บริเวณลุ่มน้ำแม่แจ่มตอนล่าง Climate Change and Hotspot Impact for Soil Fertility and Soil Erosion in Corn Acreage. Lower Part of Nam Mae Cham Basin Area.

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
17

กรีนพีซ (2563) ศึกษาพื้นที่เผาไหม้และจุดความร้อน (hotspot) ในพื้นที่ปลูกข้าวโพด พบว่า สัดส่วน

ของร่องรอยพื้นที่เผาไหม้ในพื้นที่ปลูกข้าวโพดกับพื้นที่ปลูกข้าวโพดทั้งหมดในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในช่วง 5 ปี
(พ.ศ. 2558-2562) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 14.69 ในปี พ.ศ. 2558 เป็นร้อยละ 24.4 ในปี พ.ศ. 2562

สอดคล้องกับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกข้าวโพดในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในช่วงเวลา

เดียวกัน (พ.ศ. 2558-2562) จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมสรุปได้ว่า จุดความร้อนที่พบในพื้นที่ปลูก
ข้าวโพดคิดเป็นร้อยละ 30 ของจุดความร้อนทั้งหมด

Iampornrat et al. (2002) ได้วิจัยเปรียบเทียบปริมาณการชะล้างพังทลายของดินโดยใช้สมการการ

สูญเสียดินสากลเปรียบเทียบกับแบบจำลอง MMF ในพื้นที่ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัด
ฉะเชิงเทรา ได้พบว่าแบบจำลอง MMF สามารถประเมินการชะล้างพังทลายของดินได้เหมาะสม แต่อย่างไรก็

ตาม นิพนธ์ (2545) กล่าวว่า การนำแบบจำลอง MMF มาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพนั้นยังคงต้องคำนึงถึงความ
ซับซ้อนของข้อมูลต่าง ๆ ที่จะใช้แบบจำลองร่วมกับข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันและเครื่องมือที่จะนำมาใช้ในการ

ประมวลผลด้วยจากแบบจำลอง MMF ซึ่งแบบจำลอง MMF นี้ จะพบว่าไม่ได้ให้ความสำคัญไปที่ดินที่แตก

กระจายเนื่องจากน้ำท่า และการพัดพาที่เกิดจากพลังงานจลน์ของน้ำฝน และไม่ได้พิจารณาถึงค่าอิทธิพลของ
ความยาวของความลาดชันที่มีต่อการชะล้างพังทลายของดิน (slope length factor) จึงควรที่จะมีการศึกษา

เพิ่มเติมเกี่ยวกับความเหมาะสมและถูกต้องในการนำแบบจำลอง MMF มาใช้ในการศึกษาการชะล้างพังทลาย
ของดินในประเทศไทย