Page 17 - ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรม ต่อความอุดมสมบูรณ์ของดิน และการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ปลูกข้าวโพด บริเวณลุ่มน้ำแม่แจ่มตอนล่าง Climate Change and Hotspot Impact for Soil Fertility and Soil Erosion in Corn Acreage. Lower Part of Nam Mae Cham Basin Area.
P. 17
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
6
ทรัพยากรดิน
จัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อการเกษตร เป็นแหล่งให้ธาตุอาหารและวัสดุสำหรับ
การเจริญของพืช เป็นที่กักเก็บน้ำ อากาศ และเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในดิน ที่ผ่านมา การใช้
ทรัพยากรธรรมชาติเป็นไปอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะทรัพยากรดินได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ที่
หลากหลายซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและการเพิ่มขึ้นของประชากร ส่งผลให้มี
ความต้องการพื้นที่การเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตของพืชให้มากขึ้น จึงมีการพัฒนาและใช้ประโยชน์ที่ดิน
ดังกล่าวอย่างเข้มข้นเพื่อนำไปสู่การเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิต ผลจากการกระทำดังกล่าว
ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดิน เกิดการกร่อนดิน ดินขาดความอุดมสมบูรณ์และธาตุอาหาร
ส่งผลให้ผลผลิตของพืชลดลง การจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและน้ำเพื่อปรับปรุงบำรุงดินทั้ง
สมบัติทางกายภาพ เคมีและชีวภาพ เพื่อรักษาระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยการจัดการดินและการใช้
ปุ๋ยตามหลักวิชาการอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ดินมีผลิตภาพและคุณภาพที่ดีขึ้น สามารถเพิ่มผลผลิตของพืช
ให้มีปริมาณสูงและมีคุณภาพผลผลิตที่ดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค และไม่ทำให้ทรัพยากรดินเสื่อมโทรมอัน
จะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรอื่นและสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งในการจัดการ
ทรัพยากรเกษตรอย่างยั่งยืน
การชะล้างพังทลายของดิน
การชะล้างพังทลายของดิน (Erosion) เป็นกระบวนการที่เกิดจากการที่มีแรง ซึ่งอาจเกิดจาก น้ำ
ลม หรือแรงโน้มถ่วงของโลก มากระทำให้วัตถุธาตุหรือสารแตกแยกออกจากกัน แล้วเคลื่อนย้ายอนุภาค
ของดินหรือสารหรือวัตถุธาตุดังกล่าวไปตกตะกอนทับถมอีกแห่งหนึ่ง (นิพนธ์, 2545) อันเนื่องมาจาก
2 สาเหตุ ได้แก่
1. การชะล้างพังทลายตามธรรมชาติ เช่น พื้นดินแตกระแหงเนื่องจากลม พื้นดินริมฝั่งน้ำถูก
กัดเซาะเนื่องจากน้ำ หน้าดินถูกน้ำฝนพัดพาไป
2. การชะล้างพังทลายโดยการกระทำของมนุษย์และสัตว์ เช่น การหักร้างถางป่า การขุดถนน
การขุดเหมืองแร่ การระเบิดเขา การขุดที่อยู่อาศัยของสัตว์ เมื่อผิวหน้าของดินปราศจากพืช
ปกคลุม การชะล้างและพัดพาของหน้าดินจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีฝนตก ปริมาณดินที่ถูกพัดพาออกไปนั้น
จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณและความรุนแรงของฝนที่ตกลงมาแต่ละครั้ง เมื่อดินชั้นบนซึ่งอุดม
สมบูรณ์ถูกชะล้างหมดไปแล้ว ดินชั้นล่างก็จะโผล่ขึ้นกลายเป็นดินชั้นบนแทน โดยจะสังเกตได้ง่ายคือมี
สภาพแน่นทึบและแข็ง มีอินทรียวัตถุต่ำ ซึ่งจะเป็นดินที่ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชหรือทำการเกษตร
ด้านอื่นอีกต่อไป
ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อการชะล้างพังทลายของดิน
อิทธิพลของลมฟ้าอากาศ
1) อิทธิพลของฝน ปัจจัยอันสำคัญที่สุดคือ ฝน ทั้งนี้เพราะแรงตกกระทบของเม็ดฝนนับเป็น
พลังงานอันแรกที่ทำให้ดินเกิดการแตกแยกออกจากกัน แรงตกกระทบดังกล่าวยังเป็นตัวการต่อเนื่องที่ทำ
ให้เกิดน้ำไหล่บ่าหน้าดิน และการเคลื่อนย้ายอนุภาคดินด้วย ปริมาณการชะล้างพังทลายจะเกิดขึ้นได้สูงสุด