Page 18 - ผลของการใช้ระบบน้ำหยดต่อผลผลิตและคุณภาพของอ้อยในดินด่างจังหวัดนครสวรรค์ Effects of drip irrigation on sugarcane yield and qualityon calcareous soil in Nakhonsawan province
P. 18
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
กอตายก็ยังเพิ่มขึ้นจึงทำให้ผลผลิตลดลงมาก (ทักษิณาและคณะ, 2549 ) การตอบสนองของอ้อยต่อ
การให้น้ำในช่วงการเจริญเติบโตระยะต่างๆบนชุดดินสตึก พบว่าควรให้น้ำในระยะตั้งตัวและย่าง
ปล้อง ซึ่งมีระยะเวลาการให้น้ำ 170 วัน (วันชัยและทักษิณา, 2549) บนชุดดินสตึก จังหวัดขอนแก่น
การขาดน้ำ ในระยะแตกกอมีผลให้จำนวนลำเก็บเกี่ยวลดลง และทำให้ผลผลิตลดลงจากที่ได้รับน้ำ
สมบูรณ์ (ทักษิณาและวันชัย, 2548) จากการศึกษาการให้น้ำชลประทานระบบน้ำหยดและระบบร่อง
คู่กับอ้อยพันธุ์อู่ทอง 3 ในชุดดินกำแพงแสน จังหวัดสุพรรณบุรี ในฤดูปลูกอ้อยปี 2547/48 และ
2548/49 ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ (12-6-12) พบว่าการให้น้ำชลประทานในปริมาณตาม
ความต้องการน้ำของพืชและปริมาณ 1.25 เท่าของปริมาณความต้องการน้ำของพืชให้ผลผลิตและ
คุณภาพผลผลิตของอ้อยสูงกว่าเมื่อเทียบกับการปลูกอ้อยโดยอาศัยน้ำฝน และมีความแตกต่างกัน
อย่างเห็นได้ชัด โดยให้ผลผลิตอ้อยปลูกเฉลี่ย 19.75 และ 16.13 ตันต่อไร่ และผลผลิตอ้อยตอ 1
เฉลี่ย 18.69 และ 14.70 ตันต่อไร่ สำหรับการให้น้ำและไม่ให้น้ำ ตามลำดับ
สุมาลี (2558) ได้นำแนวคิดในการจัดการดินและน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตในภาคตะวันออกเฉียง
เหนือมาออกแบบงานวิจัยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์และอุ้ม
น้ำดีขึ้นโดยเน้นศึกษาวิธีการปริมาณความถี่ในการให้น้ำและปุ๋ยที่เหมาะสมรวมถึงการนำวัสดุเหลือใช้
ทางการเกษตรในท้องถิ่นอาทิ ขุยมะพร้าวและขี้เถ้าแกลบ มาช่วยในการปรับปรุงดินอีกทางหนึ่งทั้งนี้
ได้แบ่งการทดลองออกเป็น 4 แปลงโดยในแต่ละแปลงได้ทำการควบคุมระบบการให้น้ำดังนี้ 1.แปลง
จากน้ำฝนธรรมชาติ 2.แปลงทดลองให้น้ำไหลไปตามร่อง(Furrow) 3.แปลงทดลองให้น้ำระบบน้ำ
หยดบนผิวดิน และ 4.แปลงทดลองให้น้ำระบบน้ำหยดใต้ดินโดยแต่ละแปลงจะมีการควบคุม
กระบวนการใช้วัสดุปรับปรุงดิน 3 กรรมวิธี คือ 1 ไม่ใช้วัสดุปรับปรุงดิน 2 ใส่ขุยมะพร้าวตามแถว
ปลูก อัตรา 2-3 ตันต่อไร่ 3 ใส่ขี้เถ้าแกลบ อัตรา 2-3 ตันต่อไร่ ร่วมกับกรรมวิธีการให้ปุ๋ย 4 กรรมวิธี
คือ 1.ใส่ปุ๋ย NPK ตามประเภทของเนื้อดิน 2.ใส่ปุ๋ย NPK ตามค่าวิเคราะห์ดิน 3.ใส่ปุ๋ย NPK + ธาตุ
อาหารรอง ตามค่าวิเคราะห์ดิน และ 4 ใส่ปุ๋ย NPK + ธาตุอาหารรอง+จุลธาตุตามค่าวิเคราะห์ดิน
สำหรับในแปลงระบบน้ำหยดจะถูกปรับระบบการให้ปุ๋ยไปกับระบบน้ำเพื่อเปรียบเทียบการ
เจริญเติบโตของอ้อยปลูกและความสมบูรณ์ของต้นต่อการไว้ตอในรุ่นต่อไปโดยใช้อ้อยพันธุ์ขอนแก่น
3 ซึ่งเป็นผลงานการปรับปรุงพันธุ์ของศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น กรมวิชาการเกษตรเกิดจากการผสม
ข้ามพันธุ์ระหว่างพันธุ์แม่คือ โคลน 85-2-352 กับ K 84-200 ซึ่งเป็นพันธุ์พ่อและมีการปรับปรุง
เรื่อยมาเพื่อคัดเลือกสายพันธุ์จนได้อ้อยสายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติที่ดีทั้งนี้จากภาพรวมของงานวิจัยจะ
พบว่าการจัดการน้ำและธาตุอาหารในแปลงทดลองนั้นส่งผลให้ได้ผลผลิตอ้อยที่มีคุณภาพสามารถที่
จะไว้ตอในรุ่นต่อไปได้ (หมายเหตุ : สามารถทราบข้อมูลผลผลิตต่อไร่หลังจากเก็บเกี่ยวในวันที่ 7
มีนาคม และ 11 มีนาคม 2554) ทั้งนี้หากเกษตรกรในภาคอีสานสามารถที่จะไว้ตอได้จะสามารถ
ประหยัดต้นทุนการผลิตอ้อยปลูกจาก 5,670บาท เหลือเพียง 2,090 บาทต่อไร่
สุดชล (2558) กล่าวเพิ่มเติม ว่าจากการวิจัยในครั้งนี้ทางสาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช
มทส.ต้องการส่งเสริมและแนะนำให้เกษตรกรในเขตภาคอีสานหันมาให้ความสำคัญต่อการให้น้ำและ
ธาตุอาหารในการเพาะปลูกอ้อยมากยิ่งขึ้นโดยการนำระบบน้ำหยดใต้ดินและการให้ปุ๋ยที่ตรงตาม
ความต้องการของพืชมาปรับใช้ทั้งนี้หากเกษตรกรหันมาใช้ระบบน้ำหยดใต้ดินจะสามารถควบคุมการ
ให้น้ำและให้ปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้งการให้น้ำในระบบน้ำหยดใต้ดินนั้นจะมีการสูญเสีย