Page 29 - การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม
P. 29
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
20
ช่วยเหลืออย่างจริงจังในการช่วยเหลือเกษตรกรทุกๆ ด้าน โดยต้องค านึงถึงความพร้อมและความ
ต้องการทั้งของเกษตรกรและของตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากเกษตร
อินทรีย์ยังเป็นสิ่งใหม่ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรเน้นการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมต่อไป
สหภาพ (2552) ท าการศึกษาเรื่องการยอมรับการปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดี
ตามการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีของเกษตรกรในจังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า การยอมรับการปลูกข้าวหอม
มะลิคุณภาพดี ตามการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีของเกษตรกรในจังหวัดร้อยเอ็ดโดยภาพรวมอยู่ใน
ระดับมาก ผลการเปรียบเทียบการยอมรับการปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดีตามการปฏิบัติทาง
การเกษตรที่ดีของเกษตรกรในจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีเพศ ระดับการศึกษาและประสบการณ์ แตกต่างกัน
แต่พบว่ามีการยอมรับไม่แตกต่างกัน
พนิดา (2553) ท าการศึกษาเรื่องการยอมรับการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของ
เกษตรกรในอ าเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ : กรณีศึกษาการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์จากส านักงาน
มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการพัฒนาเกษตรอินทรีย์
อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ ระดับการศึกษา ขนาดของพื้นที่การเกษตร ระยะเวลาที่
ท าเกษตรอินทรีย์ ประสบการณ์เกี่ยวกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ การเคยผ่านการรับรองมาตรฐาน
เกษตรอินทรีย์ทั้งประเภทพืชและสัตว์ ปริมาณข้าวที่ผลิตได้ต่อปี ต้นทุนการประกอบอาชีพ การได้รับ
ข่าวสาร การได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน การให้คุณค่าสุขภาพ และความรู้เกี่ยวกับการ
ปลูกข้าวอินทรีย์
10.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจท าเกษตรอินทรีย์
จีรพร (2554) ท าการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจผลิตและเลิกผลิตข้าว
แบบเกษตรอินทรีย์ ผลการศึกษาพบว่า การเพิ่มความน่าจะเป็นที่เกษตรกรจะตัดสินใจผลิตข้าวแบบ
เกษตรอินทรีย์ท าได้โดย 1) เพิ่มปัจจัยด้านความสามารถในการสังเกตเห็นผลที่เกิดจากนวัตกรรม เช่น
การน าเกษตรกรไปทัศนศึกษาดูงาน เพื่อให้สังเกตเห็นระบบนิเวศการเกษตร รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ
และวิถีชีวิตของเกษตรกรที่ท าเกษตรอินทรีย์จนประสบความส าเร็จมาแล้วอย่างยั่งยืน 2) เพิ่มปัจจัย
ด้านผลประโยชน์เปรียบเทียบด้านสุขภาพ เช่น ให้บริการตรวจสารพิษในร่างกายของเกษตรกร และ
การให้สารสนเทศเกี่ยวกับสารพิษจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร 3) เพิ่มปัจจัยด้านความเข้ากันได้
หรือสอดคล้องกับสิ่งที่มีอยู่เดิม เช่น ส่งเสริมเกษตรกรที่มีลักษณะพื้นฐานการท าเกษตรที่สอดคล้องกับ
การท าเกษตรอินทรีย์ การอบรมเพื่อสร้างทัศนคติการพึ่งพาตนเอง 4) ลดปัจจัยด้านความยุ่งยาก
ซับซ้อน โดยใช้สื่อรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการสร้างสื่อหรือคู่มือที่เข้าใจ
ง่ายและสามารถมองเห็นทางปฏิบัติได้ง่ายขึ้น
ยงยุทธ และคณะ (2555) ได้ศึกษาการส่งเสริมการท าเกษตรอินทรีย์และการ
บริหารจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานของเกษตรกรในอ าเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า
หลังรับการส่งเสริม เกษตรกร มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน
แตกต่างจากก่อนรับการส่งเสริมอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 คือ หลังรับการส่งเสริม