Page 22 - เปรียบเทียบพันธุ์หญ้าแฝกและพืชคลุมดินต่อการฟื้นฟูและการปรับปรุงสมบัติทางกายภาพและเคมีของดิน
P. 22
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
6
Lu and Zhong (1998) ไดศึกษาการใชตนหญาแฝกที่สับเปนชิ้น ๆ เพื่อการ
ปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดิน โดยใสใบและตนหญาแฝกแหง อัตรา 4.5 ตัน และ 2.25 ตัน ใน
พื้นที่ปลูกพืช 2 แหงผลการศึกษาพบวา ความพรุนของดิน อินทรียคารบอน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส
เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับแปลงควบคุม และมีผลทําใหผลผลิตขาวโพดเพิ่มขึ้น 34.8 เปอรเซ็นต
และ 10.1 เปอรเซ็นต ตามลําดับ Chen et al. (1994) รายงานวาในสวนมะนาวที่ใชใบหญาแฝกและ
ไมใชหญาแฝกคลุมดินที่โคนตน พบวาการคลุมดินดวยใบหญาแฝกทําใหสมบัติทางเคมีและกายภาพ
ไดรับการปรับปรุงใหดีขึ้น ความพรุนของดินเพิ่มขึ้น 3.8 เปอรเซ็นต ความเปนกรดเปนดางเพิ่มขึ้น 0.65
ปริมาณอินทรียวัตถุ เพิ่มขึ้น 4.6 กรัมตอกิโลกรัม ไนโตรเจน เพิ่มขึ้น 0.29 กรัมตอกิโลกรัม ฟอสฟอรัส
เพิ่มขึ้น 2.4 มิลลิกรัมตอกิโลกรัม และโพแทสเซียมเพิ่มขึ้น 51 มิลลิกรัมตอกิโลกรัม นอกจากนี้
ปริมาณจุลธาตุมีแนวโนมเพิ่มขึ้น การปลูกหญาแฝกในสวนมะนาวชวยเพิ่มผลผลิตมะนาว เนื่องจาก
สมบัติทางเคมีและกายภาพของดินไดรับการปรับปรุงใหดีขึ้น
2.2.3 การรักษาความชื้นดิน
ความชื้นในดินประกอบดวย 2 สถานะ คือ สถานะที่เปนของเหลว หรือน้ําใน
ดิน และสถานะที่เปนกาซ หรือไอน้ําในดิน ความชื้นของดินกับน้ําในดิน มีความหมายเดียวกัน คือ
สวนที่อยูในสถานะที่เปนของเหลว สามารถแบงสภาพของน้ําในดินออกไดตามความแตกตางของน้ําที่
มีอยูในดินได (คณาจารยภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548) ดังตอไปนี้
1) สภาพดินที่อิ่มตัวดวยน้ํา (saturated soil) คือดินที่มีน้ําอยูเต็มในสัดสวน
ของเปอรเซ็นตของอากาศ และเปอรเซ็นตของน้ําในสวนประกอบของดิน ไดแก ดินที่อยูในสภาพน้ําขัง
2) สภาพดินที่ไมอิ่มตัวดวยน้ํา (unsaturated soil) คือดินที่มีน้ําอยูไมเต็มใน
สัดสวนของเปอรเซ็นตของอากาศและเปอรเซ็นตของน้ําในสวนประกอบของดิน ไดแก ดินที่ดอนที่ใช
ทําการเกษตรกรรมโดยทั่วไป
3) สภาพความจุความชื้นภาคสนาม (field capacity : FC) คือสภาพของดิน
ที่สามารถอุมน้ําหรือดูดยึดน้ําไดมากที่สุดซึ่งอยูในชวงความลึกจากผิวดินลงไป 6 นิ้ว ชองวางขนาดเล็ก
ในดินจะอิ่มตัวดวยน้ํา สวนน้ําที่อยูในชองวางขนาดใหญจะเคลื่อนที่ออกหมดโดยแรงดึงดูดของโลก
4) สภาพน้ําเยื่อ (hygroscopic coefficient) เปนสภาพที่น้ําจะอยูในรูปเยื่อ
บาง ๆ รอบอนุภาคดิน น้ําถูกยึดดวยแรงดึงดูดที่สูงมากตั้งแต 31 บรรยากาศจนถึง 10000 บรรยากาศ
สภาพเชนนี้พืชไมสามารถนําไปใชประโยชนได
5) สภาพจุดเหี่ยวถาวรของพืช (permanent wilting point) เปนสภาพที่
เกิดขึ้นเนื่องจากในชองวางขนาดเล็กของดินมีปริมาณน้ําอยูนอยประกอบกับมีแรงยึดเพิ่มขึ้นในเวลา
กลางวันพืชจะตองคายน้ํา ทําใหอัตราการคายน้ํามากกวาอัตราการดูดน้ําของพืชทําใหพืชแสดงอาการ
เหี่ยวเฉาแบบชั่วคราว เมื่อเราเพิ่มน้ําใหกับดินอาการเชนนี้จะหายไป
Chen et al. (1994) ไดศึกษาการปลูกหญาแฝกและไมปลูกหญาแฝกในสวน
มะนาว พบวาระบบนิเวศของสวนมะนาวที่มีการปลูกหญาแฝกและมีการตัดใบคลุมดินที่โคนตน ไดรับ
การปรับปรุงดีขึ้น และความชื้นดินเพิ่มขึ้น 2.8 เปอรเซ็นต ซึ่งแสดงใหเห็นวาการปลูกหญาแฝกจะชวย
ปรับปรุงสภาพอากาศของสวนมะนาว โดยเฉพาะในชวงกลางฤดูรอนที่มีอุณหภูมิสูง Xia et al.
(1996) พบวาในฤดูฝน แถวของหญาแฝกชวยทําใหปริมาณความชื้นในดินเพิ่มขึ้น 20.3 และ 4.1