Page 20 - ผลของการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรร่วมกับปุ๋ยเคมีต่อการตอบสนองของผลผลิตข้าว และการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน
P. 20
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
9
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ตํอพืชที่อยูํในรูปที่ละลายน้ าได๎ คือ โมโนไฮโดรเจน
-
2-
ฟอสเฟต (H PO ) และไดไฮโดรเจนฟอสเฟต (HPO ) ฟอสฟอรัสในดินที่อยูํในรูปของโมโนไฮโดรเจน
2
4
4
ฟอสเฟตและไดไฮโดรเจนฟอสเฟตจะมีความวํองไวในการท าปฏิกิริยากับองค์ประกอบอนินทรีย์ของดินให๎
กลายเป็นรูปที่ไมํเป็นประโยชน์แกํพืช เรียกวํา การตรึงฟอสเฟต (P-fixation หรือ P-immobilization)
โดยปกติในดินกรด ธาตุเหล็กและอลูมิเนียมจะท าปฏิกิริยากับฟอสฟอรัส กลายเป็นสารประกอบ
สลับซับซ๎อนที่ละลายได๎ยาก สํวนในดินลํางแคลเซียมและแมกนีเซียมท าปฏิกิริยากับฟอสฟอรัสกลายเป็น
แคลเซียมและแมกนีเซียมฟอสเฟตที่ละลายได๎ยาก ความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดินจึงเกิดขึ้น
ในชํวงที่ดินมีคําความเป็นกรดเป็นดํางเทํากับ 6.5-7.0 เทํานั้น เนื่องจากฟอสฟอรัสในดินมักท าปฏิกิริยากับ
ดิน และถูกดูดซับอยูํในดิน การเคลื่อนตัวของอนุมูลโมโนฟอสเฟตจึงมีน๎อยมาก ดังนั้น ฟอสฟอรัสจึงจัดเป็น
ธาตุเคลื่อนย๎ายได๎ยากในดิน ซึ่งตรงข๎ามกับไนโตรเจน คุณสมบัตินี้จึงชํวยปูองกันมิให๎มีการสูญเสีย
ฟอสฟอรัสไปจากดินได๎งําย (อภิพรรณ, 2541)
ข๎าวที่ขาดฟอสฟอรัส จะมีอาการแคระแกร็น แตกกอน๎อย ใบแคบ สั้น ตั้งตรงและมีสีเขียว
เข๎ม ล าต๎นผอมเรียว ข๎าวจะชะงักการเจริญเติบโต จ านวนใบ จ านวนรวงและจ านวนเมล็ดตํอรวงลดลง ใบ
อํอนสมบูรณ์ดี แตํใบแกํจะเปลี่ยนเป็นสีน้ าตาลและตายในที่สุด ถ๎าพันธุ์ข๎าวที่ปลูกสามารถผลิตแอนโทไซ
ยานินได๎ ใบอาจเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีมํวงในดินที่เป็นกรด การขาดฟอสฟอรัสมักจะเกิดรํวมกับภาวะ
เหล็กเป็นพิษ (อภิพรรณ, 2541)
5.3 โพแทสเซียม เป็นธาตุอาหารที่พืชต๎องการในปริมาณมาก นับเป็นธาตุอาหารที่มีประจุบวก
(แคทไอออน) ที่พืชดูดใช๎เป็นปริมาณมากที่สุดในบรรดาแคทไอออนตําง ๆ ความแตกตํางระหวําง
โพแทสเซียมกับธาตุอาหารหลักสองตัวแรก (ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส) คือ โพแทสเซียมไมํเป็น
สํวนประกอบของโครงสร๎างเนื้อเยื่อพืช เชํน ไนโตรเจนเป็นสํวนประกอบของโปรตีน ฟอสฟอรัสเป็น
สํวนประกอบของกรดนิวคลีอิก แตํโพแทสเซียมมีบทบาทส าคัญในกระบวนการทางสรีรวิทยาและชีวเคมีใน
พืช นับตั้งแตํการสังเคราะห์แสง การหายใจ การล าเลียงสารประกอบที่ได๎จากการสังเคราะห์แสง การสร๎าง
โปรตีนและน้ ามันในพืช และมีบทบาทในการเรํงปฏิกิริยา (catalysis) ของเอนไซม์ตําง ๆ ดังนั้น หากพืช
ขาดโพแทสเซียมจะท าให๎การเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง นอกจากนี้โพแทสเซียมยังมีอิทธิพลตํอ
โครงสร๎างระดับอวัยวะพืชและเซลล์พืช เชํน เพิ่มการสร๎างผนังเซลล์ (cell wall) ท าให๎พืชต๎านทานโรคดี
ขึ้นและชํวยเพิ่มเซลล์ที่เก็บส ารองอาหารที่สังเคราะห์ (แปูงและน้ าตาล) ในเมล็ดธัญพืช เป็นต๎น (ปัทมา,
2543)
โพแทสเซียมในดินเกิดจากการสลายตัวของแรํ feldspar, mica และดินเหนียวพวก illite พบ
+
อยูํในรูปสารละลายในดินมากกวําฟอสฟอรัส รูปที่เป็นประโยชน์ตํอพืช คือ K ที่ละลายเป็นอิสระและรูป
+
ของโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได๎ (exchangeable K ) ซึ่งถูกดูดซับอยูํรอบ ๆ อนุภาคดินเหนียว หากจะ
แบํงโพแทสเซียมในดินออกเป็นรูปตําง ๆ ตามความเป็นประโยชน์ตํอพืช อาจแบํงได๎ดังนี้ (อภิพรรณ,
2541)
1) รูปที่เป็นประโยชน์ทันที (readily available form) คือ รูปที่อยูํในสารละลายดิน (soil
+
solution K ) รวมทั้งรูปที่แลกเปลี่ยนได๎ ซึ่งถูกดูดซับอยูํรอบผิวของอนุภาคดินเหนียว (exchangeable
K )
+
2) รูปที่เป็นประโยชน์ได๎ช๎า (slowly available form) คือ รูปที่ถูกตรึงอยูํระหวํางแผํนแรํ
ของอนุภาคดินเหนียวพวก illite vermiculite และแรํดินเหนียวชนิดอื่น ๆ ที่มีลักษณะผลึกแบบ 2:1 ซึ่ง