Page 21 - ผลของการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรร่วมกับปุ๋ยเคมีต่อการตอบสนองของผลผลิตข้าว และการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน
P. 21
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
10
พืชไมํสามารถน าไปใช๎ประโยชน์ได๎ นอกจากจะถูกปลดปลํอยออกมาเสียกํอน ปกติโพแทสเซียมในรูปนี้จะ
ถูกปลดปลํอยออกมาอยํางช๎า ๆ ชดเชยรูปที่ถูกพืชน าไปใช๎
3) รูปที่ยังไมํเป็นประโยชน์ตํอพืช (relatively unavailable from) ได๎แกํ รูปที่อยูํในแรํ
พวก feldspar, mica และแรํอื่น ๆ เป็นแหลํงของโพแทสเซียมในดินในระยะยาว เพราะโพแทสเซียมจะ
ถูกปลดปลํอยให๎ละลายออกมาทีละน๎อย โดยสารละลายกรดคาร์บอนิค
ข๎าวที่ขาดโพแทสเซียมจะแสดงอาการ คือ ใบขนาดเล็กแคบสีเขียวอมน้ าเงิน การแตกกอ
ลําช๎าออกไป มีดวงคลอโรซิสเกิดกระจายอยํางไมํเป็นระเบียบและตํอมาจะกลายเป็นแผลเนโครซิส แพรํ
ขยายตามแนวยาวของใบแกํ โดยเริ่มจากปลายใบและตํอมาเปลี่ยนเป็นสีน้ าตาลอมแดง ในที่สุดใบจะ
กลายเป็นสีน้ าตาลและแห๎งตาย เริ่มจากสํวนปลายใบอํอนที่เกิดภายหลังมักจะมีสีเขียวอมเหลืองซีด อาการ
ขาดโพแทสเซียมในข๎าว รู๎จักในชื่อ “grey speck” รากของต๎นข๎าวที่ขาดโพแทสเซียมจะมีพลังออกซิไดส์
จะลดลง (วิจิตร, 2552)
6. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
งานวิจัยเกี่ยวข๎องกับการวิจัยนี้ สามารถแบํงเป็น 2 เรื่อง ได๎แกํ
6.1 การใช๎ถํานชีวภาพ ซึ่งสามารถแบํงได๎ 4 ด๎าน ดังนี้
6.1.1 ด๎านการเจริญเติบโตและให๎ผลผลิตพืช จากกรายงานของอภิญญา (2556) ได๎ศึกษา
ประสิทธิภาพของไบโอชาร์ (ถํานชีวภาพ) ชนิดตําง ๆ และจุลินทรีย์มาใช๎ในการลดการสะสมของแคดเมียม
ในต๎นข๎าวที่ปลูกในดินที่ปนเปื้อนแคดเมียม พบวํา การใสํไบโอชาร์จากขี้เลื่อยชํวยลดการสะสมแคดเมียม
ในต๎นข๎าวได๎ดีที่สุด ท าให๎ต๎นข๎าวเจริญเติบโตได๎ดี รองลงมาได๎แกํ ไบโอชาร์จากชานอ๎อย และจากแกลบ
ตามล าดับ นอกจากนี้พบวํา ไบโอชาร์จากขี้เลื่อยมีซิลิกอนท าให๎เซลล์พืชแข็งแรง ท าให๎ต๎นข๎าวทนตํอ
สภาวะที่มีแคดเมียมปนเปื้อนได๎ดี สํวนวิชุตา (2556) ศึกษาผลของถํานชีวภาพที่มีตํอผลผลิตข๎าวและ
คุณภาพดินเหนียวปนทราย กรณีศึกษาต าบลปุาเด็ง อ าเภอแกํงกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยใช๎ถําน
ชีวภาพจากไม๎เนื้ออํอน (ไม๎ชะเอม ไม๎กระชิด ไม๎สะแกวัลย์ และไม๎กระดูกแตก) และซังข๎าวโพด บดรวมกัน
อัตรา 1,600 กิโลกรัมตํอไรํ เทํากับการใสํปุ๋ยคอก โดยการแบํงใสํ 2 ครั้ง (ครั้งแรกกํอนปลูก 2 สัปดาห์
อัตรา 1,000 กิโลกรัมตํอไรํ ครั้งที่ 2 ระยะกํอนข๎าวตั้งท๎อง อัตรา 600 กิโลกรัมตํอไรํ) ก าหนดวิธีการ
ทดลอง 4 วิธี ได๎แกํ 1) ดินเดิม 2) ดินรํวมกับถํานชีวภาพ 3) ดินรํวมกับปุ๋ยคอก และ 4) ดินรํวมกับถําน
ชีวภาพอัตรา 800 กิโลกรัมตํอไรํ และปุ๋ยคอกอัตรา 800 กิโลกรัมตํอไรํ ใช๎ข๎าวไรํ 3 พันธุ์ คือ พันธุ์นาสาร
พันธุ์เหลือง และข๎าวผสม (นาสารผสมเหลือง) พบวํา ผลผลิตและการเจริญเติบโตของข๎าว ได๎แกํ ความสูง
น้ าหนักแห๎ง (ล าต๎นและราก) จ านวนต๎นตํอพื้นที่ การแตกกอ จ านวนเมล็ดตํอรวง จ านวนรวงตํอพื้นที่
น้ าหนัก 1,000 เมล็ด และเปอร์เซ็นต์เมล็ดดี เพิ่มขึ้นอยํางมีนัยส าคัญทางสถิติเมื่อใสํถํานชีวภาพ และ
พบวํา เมื่อใสํถํานชีวภาพอัตรา 800 กิโลกรัมตํอไรํรํวมกับปุ๋ยคอกอัตรา 800 กิโลกรัมตํอไรํ ให๎ผลผลิตได๎ดี
ยิ่งขึ้น ส าหรับศิริลักษณ์ และอรสา (2556) รายงานวํา อัตราสํวนของปุ๋ยคอกตํอถํานชีวภาพ (จากฟางข๎าว
แกลบ และกิ่งไม๎) 25:75 (คิดเป็นปุ๋ยคอกอัตรา 800 และถํานชีวภาพอัตรา 2,400 กิโลกรัมตํอไรํ) ท าให๎
คะน๎ามีความสูงและน้ าหนักสูงกวําทุกต ารับการทดลองและมีความแตกตํางกันอยํางมีนัยส าคัญทางสถิติ
สํวนรายงานของเสาวคนธ์ (2557) ที่ศึกษาผลของถํานชีวภาพจากไม๎ไผํและแกลบตํอผลผลิต ประสิทธิภาพ
การดูดใช๎ไนโตรเจนของข๎าวพันธุ์ชัยนาท 1 พบวํา การใสํถํานชีวภาพ (จากไม๎ไผํ และแกลบ) อัตรา 60
กรัมตํอถัง (1 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ าหนัก หรือคิดเป็นอัตรา 2,400 กิโลกรัมตํอไรํ) รํวมกับปุ๋ยเคมีจะท าให๎
ผลผลิตข๎าวดีกวําการใสํปุ๋ยเคมีอยํางเดียว นอกจากนี้จากรายงานของเกศศิรินทร์ และคณะ (2561) ที่