Page 23 - ผลของการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรร่วมกับปุ๋ยเคมีต่อการตอบสนองของผลผลิตข้าว และการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน
P. 23
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
12
6.1.2 ด๎านการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน จากรายงานของวิชุตา (2556) พบวํา เมื่อ
ใสํถํานชีวภาพอัตรา 800 กิโลกรัมตํอไรํรํวมกับปุ๋ยคอกอัตรา 800 กิโลกรัมตํอไรํ ท าให๎สมบัติของดิน
เหมาะสมตํอการเจริญเติบโตของข๎าวมากขึ้น ได๎แกํ คําความเป็นกรดเป็นดําง คําการน าไฟฟูา ปริมาณ
อินทรียวัตถุ คําความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวก ปริมาณคาร์บอนทั้งหมด ปริมาณไนโตรเจนทั้งหมด
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได๎เพิ่มขึ้นอยํางมีนัยส าคัญทาง
สถิติ ส าหรับในรายงานปรเมศ และคณะ (2558) พบวํา การจัดการปุ๋ยและถํานชีวภาพที่แตกตํางกันไมํมี
ผลท าให๎ปริมาณไนโตรเจนรวม และความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุบวกของดินมีความแตกตํางกัน
ในทางสถิติ แตํมีผลท าให๎ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ ปริมาณอินทรียวัตถุ การน าไฟฟูาของเกลือ
โพแทสเซียม แคลเซียม และโซเดียมที่แลกเปลี่ยนได๎มีความแตกตํางกันอยํางมีนัยส าคัญทางสถิติ อยํางไรก็
ตามการใสํปุ๋ยและถํานชีวภาพในอัตราที่สูงมีแนวโน๎มท าให๎ความอุดมสมบูรณ์ของดินเพิ่มมากขึ้น สํวน
รายงานของศิริลักษณ์ และอรสา (2556) พบวํา ถํานชีวภาพชํวยท าให๎ความคําความเป็นกรดเป็นดํางของ
ดินเพิ่มขึ้น แตํยังไมํเห็นการเปลี่ยนแปลงของอินทรียวัตถุในดินชัดเจน ซึ่งอ๎างถึง Fontaine (2004) ที่ระบุ
วําการใช๎ถํานชีวภาพเพื่อการปรับปรุงดินส าหรับการเกษตรและการสะสมคาร์บอนในดินนั้น ต๎องใช๎
ระยะเวลามากกวํา 5 ปีขึ้นไป จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด๎านอินทรียวัตถุและการเจริญเติบโตของพืช
ซึ่งสามารถระบุการเพิ่มผลผลิตของพืชได๎ชัดเจน ในขณะที่รายงานของดารารัตน์ และคณะ (2561) ซึ่ง
ศึกษาการใช๎ถํานชีวภาพตํอการเปลี่ยนแปลงกิจกรรม มวลชีวภาพและสังคมของจุลินทรีย์ในพื้นที่ปลูกผัก
ในระบบปลอดสารพิษ พบวํา การใสํถํานชีวภาพที่ผลิตจากแกลบในแปลงผักอัตรา 1,000 1,500 2,000
กิโลกรัมตํอไรํ จะชํวยบรรเทาไมํให๎ปริมาณจุลินทรีย์ลดลงอยํางรวดเร็ว และสํงผลท าให๎ปริมาณ
อินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในดินเพิ่มขึ้น โดยสัมพันธ์กับปริมาณถํานชีวภาพที่ใสํในแตํละ
อัตรา บวร (2559) รายงานวําการใช๎ถํานชีวภาพปรับปรุงดินเค็มเพื่อเพิ่มผลผลิตข๎าวขาวดอกมะลิ 105
พบวํา ท าให๎ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินหลังการทดลองเพิ่มสูงขึ้น สํงผลให๎เกิดความ
แตกตํางกันอยํางมีนัยส าคัญทางสถิติ ในรายงานของเกศศิรินทร์ และคณะ (2561) พบวํา การใสํถําน
ชีวภาพจากไม๎ยูคาลิปตัส อัตรา 500, 1,000 และ 2,000 กิโลกรัมตํอไรํ ท าให๎สมบัติทางเคมีของดินปลูกมี
ความแตกตํางกันอยํางมีนัยส าคัญทางสถิติ โดยเฉพาะอยํางยิ่งคําความเป็นกรดเป็นดําง ปริมาณ
อินทรียวัตถุ และฟอสฟอรัส มีคําสูงขึ้นเมื่ออัตราการใสํถํานชีวภาพเพิ่มขึ้น สํวนจาวภา และคณะ (2560)
รายงานวํา การใสํถํานชีวภาพรํวมกับใสํปุ๋ยมูลไกํอัตรา 300 กิโลกรัมตํอไรํ ท าให๎ปฏิกิริยาดินสูงขึ้น ปริมาณ
แคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได๎ และฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น แตํปริมาณอินทรียวัตถุ ปริมาณ
ไนโตรเจนทั้งหมด และโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได๎ลดลง สํวนคําการน าไฟฟูาและความจุในการ
แลกเปลี่ยนประจุบวก มีคําใกล๎เคียงกันกับดินกํอนปลูก สํวนพชรพล และสุขุมาภรณ์ (2561) ซึ่งศ ึกษาผล
ของการประยุกต์ใช๎ถํานชีวภาพตํอการเติบโตและประสิทธิภาพ ของการสังเคราะห์ด๎วยแสงของพริกขี้หนู
ซูเปอร์ฮอท ภายใต๎สภาวะดินเปรี้ยว พบวํา ดินเปรี้ยวที่ใสํถํานชีวภาพจากซังข๎าวโพดความเข๎มข๎น 2.5,
5.0 และ 10.0 เปอร์เซ็นต์โดยน้ าหนัก ท าให๎ดินมีคําความเป็นกรดเป็นดําง และความชื้นสัมพัทธ์ของดิน
เพิ่มสูงขึ้นอยํางมีนัยส าคัญทางสถิติ ซึ่งแปรผันตามความเข๎มข๎นที่เพิ่มขึ้น และการใสํถํานชีวภาพจากซัง
ข๎าวโพดที่ความเข๎มข๎น 2.5 เปอร์เซ็นต์โดยน้ าหนัก มีบทบาทในการเพิ่มการเติบโตและเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการสังเคราะห์ด๎วยแสงของพริกในสภาวะดินเปรี้ยวได๎ โดยให๎ข๎อมูลวําถํานชีวภาพจากซังข๎าวโพด
เหมาะส าหรับเป็นวัสดุปรับปรุงดินเปรี้ยวให๎เหมาะสมตํอการเจริญเติบโตของพริก และเสาวคนธ์ (2557)
รายงานวํา การใสํถํานชีวภาพท าให๎อินทรียวัตถุและปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดในดินสูงกวําการใสํปุ๋ยเคมี