Page 53 - การศึกษาธาตุอาหารในปุ๋ยหมักที่ผลิตจากกากตะกอนน้ำเสีย เทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
P. 53
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
46
คุณสมบัติของปุ๋ยหมัก ค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N ratio) ไม่เกิน 20 : 1 ปริมาณ
อินทรียวัตถุอยู่ระหว่าง 25-50 เปอร์เซ็นต์โดยน้ าหนัก เกรดปุ๋ยไม่ต่ ากว่า 0.5-1.0 เปอร์เซ็นต์ของ
ไนโตรเจน(N) , ฟอสเฟต(P2O5) และโพแทสเซียม (K2O) ความชื้นของปุ๋ยหมักไม่เกิน 30-40 เปอร์เซ็นต์
โดยน้ าหนัก ค่าการน าไฟฟ้าไม่เกิน 3.5 เดซิซีเมนต่อเมตร ความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 6.0-7.5 ไม่มี
วัสดุอื่นเจือปน
อัตราและวิธีการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยหมักส่วนใหญ่จะมีปริมาณธาตุอาหารพืชค่อนข้างต่ า แต่มีบทบาท
มากในการปรับปรุงคุณภาพของดิน อัตราการใส่ปุ๋ยหมักในดินที่เป็นดินทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ า
โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะใช้ในปริมาณที่สูงกว่าในดินเหนียวหรือดินร่วนปนทรายที่มี
ความอุดมสมบูรณ์ปานกลางทางภาคเหนือและภาคกลาง ระยะเวลาที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ยหมักเพื่อให้
เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพืชที่ปลูก ควรใส่ปุ๋ยหมักในช่วงเตรียมดิน และไถกลบลงไปในดินขณะที่ดินมี
ความชื้นเพียงพอที่จะท าให้ธาตุอาหารที่มีอยู่เป็นประโยชน์ต่อพืชสูงสุด อัตราแนะน าและวิธีการใส่ปุ๋ย
ส าหรับพืชชนิดต่างๆนั้น มีดังนี้ ข้าว ใช้ 2 ตันต่อไร่ หว่านให้ทั่วพื้นที่แล้วไถกลบก่อนปลูกพืช พืชไร่ ใช้ 2
ตันต่อไร่ โรยเป็นแถวตามแนวปลูกพืช แล้วคลุกเคล้ากับดิน พืชผัก ใช้ 4 ตันต่อไร่ หว่านให้ทั่วแปลง ไถ
กลบขณะเตรียมดิน ไม้ผล ไม้ยืนต้น เตรียมหลุมปลูกใช้ 20 กิโลกรัมต่อหลุม คลุกเคล้าปุ๋ยหมักกับดิน ใส่
ร่องก้นหลุม ต้นพืชที่เจริญแล้ว ใช้ 20-50 กิโลกรัมต่อต้น โดยขุดร่องลึก 10 เซนติเมตร ตามแนวทรงพุ่ม
ของต้นใส่ปุ๋ยหมักในร่องและกลบด้วยดินหรือหว่านให้ทั่วภายในทรงพุ่ม ไม้ตัดดอก ใส่ปุ๋ยหมัก 2 ตันต่อไร่
ไม้ดอกยืนต้นใช้ 5-10 กิโลกรัมต่อหลุม
ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก คือ ปรับปรุงสมบัติกายภาพของดิน ท าให้ดินร่วนซุยการระบายอากาศและ
อุ้มน้ าของดินดีขึ้น เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืชทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และจุลธาตุดูดยึดและ
เป็นแหล่งเก็บธาตุอาหารในดินไม่ให้ถูกชะล้างสูญเสียไปได้ง่าย และปลดปล่อยอกมาให้พืชใช้ประโยชน์ที
ละน้อยตลอดฤดูปลูก เพิ่มความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลง ความเป็นกรดเป็นด่างของดิน เพิ่มแหล่ง
อาหารของจุลินทรีย์ ท าให้ปริมาณและกิจกรรมจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินเพิ่มขึ้น
3.5 มาตรฐานสินค้าประเภทปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่รับรองโดยกรมพัฒนาที่ดิน
ปัจจุบันความสนใจในเรื่องความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหารมีเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากพิษ
ภัยของการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพใน
การด ารงชีวิตของมนุษย์ และจากการที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปี 2547 เป็นปีแห่งความปลอดภัยทางอาหาร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการรณรงค์และส่งเสริมให้เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ประกอบสินค้า
เกษตรและอาหาร ผลิตอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยแก่ผู้บริโภค สามารถแข่งขันในตลาดโลก เพื่อน า
ไทยไปสู่ครัวโลก
กรมพัฒนาที่ดิน ได้ด าเนินงานสนองนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาโดยตลอด โดย
การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อเป็นฐานการผลิตที่ปลอดภัยและมั่นคงของ
ประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของการรณรงค์และส่งเสริมให้เกษตรกร ได้ตระหนักถึงการใช้ปัจจัยการผลิตทาง
การเกษตร เช่น ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์ สารปรับปรุงบ ารุงดิน ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและความ
ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อนของจุลินทรีย์หรือสารพิษในวัตถุดิบ จากสารเคมีที่ใช้ในการผลิต
เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ น ามาสู่การลดต้นทุนเพิ่ม
ขีดความสามารถในการแข่งขัน และผลิตสินค้าเกษตรแต่ละชนิดได้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด