Page 84 - การวิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและคุณภาพที่ดินสำหรับการวางแผนการใช้ที่ดินระดับลุ่มน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาลำเชิงไกร
P. 84
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
67
3.5 การจ้าแนกชั นความเหมาะสมของที่ดิน (Land Suitability Classification)
จากหลักการของ FAO Framework ได้จ้าแนกอันดับความเหมาะสมของที่ดินเป็น 2 อันดับ
(Order) คือ
1) อันดับที่เหมาะสม (Order S, suitability)
2) อันดับที่ไม่เหมาะสม (Order N, not suitability)
และจาก 2 กลุ่ม ที่ได้แบ่งย่อยออกเป็น 4 ชั้น (class) ดังนี้
S1 : หมายถึง ชั้นที่มีความเหมาะสมสูง (Highly suitable)
S2 : หมายถึง ชั้นที่มีความเหมาะสมปานกลาง (Moderately suitable)
S3 : หมายถึง ชั้นที่มีความเหมาะสมเล็กน้อย (Marginally suitable )
N : หมายถึง ชั้นที่ไม่มีความเหมาะสม (Not suitable)
นอกจากนี้ในแต่ละชั้นความเหมาะสมยังแบ่งออกเป็นชั้นย่อย (Subclass) ซึ่งเป็นข้อจ้ากัด
ของคุณภาพที่ดินที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของพืช ส้าหรับคู่มือฉบับนี้ได้ก้าหนดไว้ 11 ชนิด ดังที่
กล่าวมาแล้ว
ชั้นความเหมาะสมทั้ง 4 ชั้น สามารถก้าหนดโดยพิจารณาเปรียบเทียบกับผลผลิต โดยใช้ฐาน ดังนี้
S1 = 80-100% optimum yield, S2 = 40-80% optimum yield
S3 = 20-40% optimum yield, N = น้อยกว่า 20 % optimum yield
โดย optimum yield หมายถึง ระดับผลผลิตสูงสุดที่ได้จากการผลิตในสภาพที่มีสมบัติทางดิน
ลักษณะภูมิอากาศ พันธุ์พืช และการจัดการที่เหมาะสม
3.6 ลักษณะของลุ่มน ้า และพื นที่ลุ่มน ้า
3.6.1 ความหมายและค้าจ้ากัดความของพื นที่ลุ่มน ้า การอธิบายความหมายและการให้ค้า
จ้ากัดความของพื้นที่ลุ่มน้้า โดยค้ารณ (2554) ได้ให้จ้ากัดความ ของพื้นที่ลุ่มน้้า (Watershed Area)
หมายถึง พื้นที่ซึ่งล้อมรอบด้วยสันปันน้้า (divide) เป็นพื้นที่รับน้้าฝนของแม่น้้าสายหลักในลุ่มน้้านั้นๆ
เมื่อฝนตกลงมาในพื้นที่ลุ่มน้้าจะไหลออกสู่ล้าธารสายย่อยๆ (suborder) แล้วรวมกันออกสู่ล้าธารสายใหญ่
(order) และรวมกันออกสู่แม่น้้าสายหลัก (mainstream) จะไหลออกปากน้้า (outlet) ในที่สุด
กรมชลประทาน (2558) ได้ให้ค้าจ้ากัดความของพื้นที่ลุ่มน้้า และลุ่มน้้า ดังต่อไปนี้
ลุ่มน้้า หมายถึง พื้นที่รับน้้าตามธรรมชาติ จากฝนที่ตกลงในพื้นที่นั้นแล้วไหลลงสู่ที่ต่้า ไปรวมตัวกัน
เป็นล้าน้้าสายเล็ก และไหลรวมตัวกันลงสู่ล้าน้้าสายใหญ่ขึ้นไป จนในที่สุดไหลออกจาก พื้นที่ลุ่มน้้าที่
จุดหนึ่งของล้าน้้าขอบเขตพื้นที่ลุ่มน้้าก้าหนดได้ด้วยแนวเส้นสันปันน้้าที่เริ่มตรงจุดไหลออกของลุ่มน้้า
แล้วแผ่ครอบคลุมทั้งสอง ด้านของล้าน้้าไปจนถึงต้นน้้าล้าธาร ขนาดของพื้นที่ลุ่มน้้าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเลื่อนจุดไหลออกไปทางท้ายน้้า จนในที่สุดพื้นที่ลุ่มน้้าจะใหญ่ที่สุดที่จุดไหลออกสู่ทะเล ขนาดของ
ล้าน้้าและลุ่มน้้าสามารถจัดล้าดับจากเล็กไปหาใหญ่ ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับลักษณะการไหลของน้้า
พื้นที่ลุ่มน้้า หมายถึง บริเวณพื้นที่ ซึ่งครอบคลุมล้าน้้าธรรมชาติตอนใดตอนหนึ่ง เหนือจุด
ที่ได้ก้าหนดในล้าน้้านั้นๆ ท้าหน้าที่เป็นแหล่งรวมน้้า ทั้งที่ไหลมาบนผิวดินและที่ซึมออกจากดิน
ให้ระบายลงสู่ล้าน้้า และไหลไปยังจุดที่ก้าหนด พื้นที่ลุ่มน้้าจึงเปรียบเสมือนหลังคาบ้านที่รองรับน้้าฝน
และล้าเลียงน้้าลงสู่รางน้้า เพื่อให้น้้าไหลลงสู่ภาชนะเก็บกักน้้า ส้าหรับขอบเขตพื้นที่ลุ่มน้้าก้าหนดได้