Page 72 - การวิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและคุณภาพที่ดินสำหรับการวางแผนการใช้ที่ดินระดับลุ่มน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาลำเชิงไกร
P. 72
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
55
การใช้ประโยชน์จะท้าให้บุคคลทุกคนได้รับประโยชน์เท่าเทียมการวางแผนการใช้ประโยชน์จึงจัดท้า
ขึ้นเพื่อให้บุคคลได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างมีความทั่วถึงในลักษณะของการได้ประโยชน์จากแผนการ
ใช้ประโยชน์ที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด
3) ความคงทนถาวรหรือการใช้ประโยชน์ที่ยาวนาน การวางแผนการใช้ประโยชน์
ที่ดินอย่างถาวรหรือคงทนจะต้องมีการจัดการที่ดีและถูกต้อง เช่น มีมาตรการการอนุรักษ์ดินและน้้า
เพื่อป้องกันการชะล้างและการพังทลายของหน้าดินและอันตรายที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง
อุทกภัย ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งอันตรายจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเราสามารถท้าให้ลดลงได้ เช่น
การสร้างระบบการชลประทานกักเก็บน้้าหรือการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันน้้าท่วม หรือแม้กระทั่งการ
สร้างคลองระบายน้้า เป็นต้น
3.2.7 การก้าหนดเขตการใช้ที่ดิน
ส้านักนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน (2554) กล่าวว่า เขตการใช้ที่ดิน เป็นการก้าหนด
พื้นที่การใช้ที่ดินที่เหมาะสมทางด้านกายภาพ เศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการก้าหนด
แผนงานพัฒนาพืชเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ รวมถึงการวางแผนการผลิตและการตลาด การใช้ที่ดิน
ตลอดจนนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการเกษตร ที่เน้นแนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียง สามารถก้าหนดเขตการใช้ที่ดินให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและยั่งยืนได้
3.3 แนวคิดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร
3.3.1 การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร
การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลง
รูปแบบการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรมาโดยตลอด ในอดีตมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตอาหารด้ารงชีพ หรือที่
เรียกว่า การเกษตรแบบยังชีพ (Subsistence agriculture) แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นการผลิตเพื่อ
จ้าหน่ายเป็นการเพิ่มพูนรายได้ของเกษตรกรมากขึ้นถึงแม้มีการขยายกิจการให้มีขนาดใหญ่แต่ก็ยังคง
มีการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรแบบยังชีพอยู่ เนื่องจากเกษตรกรมีความแตกต่างทางด้านความรู้
ความสามารถ และเงินทุน จึงท้าให้ลักษณะ การใช้ที่ดินแตกต่างกันไปและสามารถแยกประเภทได้
ดังนี้
1) การเกษตรแบบยังชีพ (Subsistence agriculture) เป็นการเกษตรที่ไม่ต้องใช้
ความรู้ความสามารถ และเงินทุนหมุนเวียนมากนัก ใช้พื้นที่ขนาดเล็ก ตัวอย่างที่เด่นชัดคือ การท้าไร่เลื่อนลอย
2) การเกษตรแบบการค้า (Commercial agriculture) เป็นการใช้ดินเพื่อการ
เพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์เพียงอย่างเดียวเป็นการเกษตรที่มีแบบแผน และหวังผลเพื่อการค้าส่วนใหญ่
มักเป็นกิจการขนาดใหญ่ ลงทุนมาก เกษตรกรต้องมีความรู้ความสามารถทั้งด้านวิชาการเกษตรเป็น
อย่างดี สามารถจัดหาพื้นที่การเกษตรและจัดรูปที่ดินเพื่อสะดวกในการใช้เครื่องจักรกลและการขนส่ง
อันเป็นปัจจัยส้าคัญในการผลิตและระบายผลผลิตออกสู่ตลาด
3) การเกษตรแบบผสม (Diversified agriculture) เป็นการเกษตรที่มีการปลูกพืช
ต่างชนิดกัน หรือแบ่งพื้นที่ไว้เลี้ยงสัตว์ประกอบกับการปลูกพืช เป็นการจัดระบบการเกษตรใหม่เพื่อ
ลดความเสียหายอันเกิดจากการเกษตรแบบการค้า